มาทำความรู้จักกับ EnglishUSA และ English UK

EnglishUSA เป็นชื่อองค์กรหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่รวบรวมโปรแกรมภาษาอังกฤษทุกประเภท English Language Proficiency (ELP) รวมถึงโปรแกรมทางเลือกภายในสถาบันต่างๆ EnglishUSA มีจำนวนสมาชิกที่ได้รับการรับรองประมาณ 238 แห่ง ข้อมูลจากเว็บไซต์ EnglishUSA จึงเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมภาษาอังกฤษที่ได้รับการรับรองในสหรัฐอเมริกาที่เชื่อถือได้ สำนักงานของ EnglishUSA ตั้งอยู่ที่ 2900 Delk Road Suite 700, PMB 321 Marietta, GA 30067 บนเว็บไซต์ EnglishUSA จะมีหัวข้อ Chossing a Program ให้เลือก ทำให้นักศึกษาที่สนใจไปเรียนภาษาอังกฤษที่ประเทศสหรัฐอเมริกาสามารถเลือกโรงเรียนสอนภาษาได้จากสถานที่ตั้งของโรงเรียน (Location) ประเภทของหลักสูตร อาทิเช่น General English Programs, Intensive English Programs, Academic English Programs (ประกอบด้วย Intensive English or English Pathway), Business English, Certificate Programs, Teacher Training Programs และระยะเวลาที่ต้องการเรียน (Short-term courses, Quarter or Semester) จำนวนชั่วโมงในการเรียนต่อสัปดาห์ ซึ่งในการขอวีซ่านักเรียน นักศึกษาจะต้องลงทะเบียนเรียนอย่างน้อย 18 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีประเภทของที่พักให้เลือก เช่น ต้องการหาที่พักเป็นแบบ Home-stays, หอพักนักเรียน หรือ Hotels or apartments ทั้งหมดนี้ศึกษาได้จากเว็บไซต์ https://www.englishusa.org/)

นอกจากนี้ EnglishUSA ยังมี interactive map ไว้ให้นักศึกษาเลือกหาโรงเรียนสอนภาษาในรัฐที่นักศึกษาสนใจจะเดินทางไปศึกษาต่อ เช่น ในรัฐ California จะมีรายชื่อสถาบันสอนภาษาประมาณ 34 แห่งเรียงตามตัวอักษร https://www.englishusa.org/page/ProgramSearch

English UK

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Accreditation UK ก่อน Accreditation UK คือชื่อโครงการรับรองคุณภาพศูนย์การสอนภาษาอังกฤษ English Language Teaching (ELT) ในสหราชอาณาจักร British Council จะดำเนินการร่วมกับ English UK โรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตร ELT เปิดสอน โดยสมาชิกจะได้รับการตรวจสอบทุก ๆ 4 ปี Accreditation UK จะจัดให้มีการไปเยี่ยมดูสถานที่สอนภาษาเหล่านั้นโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าระหว่างการตรวจสอบ ข้อกำหนดของโครงการนี้ถือเป็นข้อกำหนดที่เข้มงวดที่สุดในโลก เพราะเป็น 1 ในโครงการตรวจสอบที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงมหาดไทยแก่ผู้ให้บริการที่ต้องการสอนนักเรียนภายใต้วีซ่านักเรียนระยะสั้นสำหรับหลักสูตรภาษาอังกฤษที่มีระยะเวลาไม่เกิน 11 เดือน ผู้ให้บริการสอนภาษาอังกฤษต้องได้รับการรับรองภายใต้โครงการนี้ก่อน จึงจะสมัครเข้าร่วม English UK ได้ เว้นแต่สถาบันนั้นจะเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือการศึกษาต่อเนื่อง และสนใจเป็นสมาชิกสมทบ ไม่ใช่เป็นสมาชิกเต็มรูปแบบ English UK ทำหน้าที่ส่งเสริมคุณภาพการเรียนรู้ภาษาอังกฤษในโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษในสหราชอาณาจักร

English UK ยังมีกลุ่มย่อยมากมายที่เป็นตัวแทนความเชี่ยวชาญด้านการสอนหรือจะแยกตามภูมิภาค สมาชิก English UK ทุกแห่งสามารถเข้าร่วมกลุ่มย่อยที่เกี่ยวข้องใดๆ หรือทั้งหมดก็ได้ หากต้องการการเชื่อมต่อกับสมาชิกที่อื่นๆ เป็นการแบ่งปันแนวคิด เรียนรู้จากกันและกัน และสร้างโปรไฟล์ร่วมกัน กลุ่มย่อยต่างๆประกอบด้วย

  • Young Learners English UK เป็นกลุ่มที่มีสมาชิก English UK ที่จะเปิดสอนหลักสูตรสำหรับนักเรียนอายุ 7-17 ปี กลุ่มนี้มุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานและโปรไฟล์ของหลักสูตรภาษาอังกฤษที่ได้รับการรับรองสำหรับผู้เรียนรุ่นเยาว์ ปรับปรุงมาตรฐานสวัสดิการและความปลอดภัย และทำการตลาดให้กับผู้ให้บริการหลักสูตรสำหรับเยาวชน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Young Learners English UK ได้ที่ http://www.yleuk.com/
  • National Groups จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
    • English UK Scotland มีสมาชิก 15 แห่ง ทั้งศูนย์สอนภาษาเอกชน มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยการศึกษาระดับสูงที่ดำเนินการโดยรัฐ ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ http://www.englishukscotland.com/
    • English UK Northern Ireland มีสมาชิก 4 แห่ง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ English UK Northern Ireland โปรดติดต่อที่ [email protected]
    • English UK Wales มีสมาชิกทั้งหมด 7 แห่ง มีทั้งหลักสูตรสำหรับผู้ใหญ่และเยาวชนหลากหลายประเภทตั้งอยู่ที่เมือง Cardiff และ Swansea ทางใต้ของเวลส์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ [email protected]
  • Regional Groups ประกอบด้วย 6 ภูมิภาคคือ
    • English UK Central ครอบคลุมพื้นที่ Shropshire, Staffordshire, Nottinghamshire, Herefordshire, Worcestershire, Warwickshire, Leicestershire, Derbyshire ส่วนใหญ่และ Gloucestershire ตอนเหนือ ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]
    • English UK East ครอบคลุมพื้นที่ Cambridgeshire, Bedfordshire, Hertfordshire, Norfolk, Suffolk, Essex และ Northamptonshire ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]
    • English UK London มีสมาชิกมากกว่า 35 แห่ง
    • English UK North ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของอังกฤษ รวมถึงเมือง Manchester, Liverpool, Chester, Newcastle รวมถึงเขต Yorkshire, the Lake District และ Lancashire สมาชิกประกอบด้วยมหาวิทยาลัย 5 แห่ง วิทยาลัยการศึกษาระดับสูง 6 แห่ง และโรงเรียนสอนภาษาหลายแห่ง ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.englishuknorth.com
    • English UK South ครอบคลุมพื้นที่ทางตอนใต้ของ Hampshire และ Dorset บนชายฝั่งทางใต้ของอังกฤษ และมีสมาชิกอยู่ในเขต Southampton และ Bournemouth
    • English UK South West ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษและเขต Devon, Somerset, Dorset, Wiltshire รวมถึงเมือง Bath และ Bristol มีสมาชิกมากกว่า 20 ราย ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.englishuksouthwest.com

การหาสถานที่สอนภาษาอย่างง่ายๆจากเว็บไซต์ นักศึกษาสามารถเลือกประเภทของหลักสูตรที่สนใจได้จาก 15 หัวข้อจาก A ถึง O What type of courses are you looking for? A. คือ General & Intensive English B. Foundation/ Access Courses C. English for Specific Purposes D. English for Business/Executives E. Vacation courses for Adults F. Vacation courses for young learners G. English Plus H. Home Tuition I. One to one J. Teacher training&development K Work Experience L. Examination preparation courses M. English for Academic Purpose(EAP) N. One to two O. Family/ parent and child courses ( https://www.englishuk.com/en/students)

หลังจากนั้นเลือกสถานที่ที่สนใจ Where do you want to study? ซึ่งจะมีพื้นที่ให้เลือก เช่น Scotland, Northern Ireland, Northern England, Wales, Central England, Eastern England, London, South and South East England, South West England & Channel Islands และคลิก Find my course ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการที่นักศึกษาที่สนใจจะเลือกหาที่เรียนด้วยตนเอง

ตัวอย่างเช่น เลือก General & Intensive English แถวบริเวณตอนกลางของประเทศอังกฤษ ก็จะได้ผลลัพธ์ออกมา 37 หลักสูตร จาก 15 สถาบัน ถ้าต้องการทราบรายละเอียดของสถาบันนั้นคลิกชื่อสถาบันเพื่อเข้าไปอ่านรายละเอียดของสถาบันสอนภาษาแห่งนั้นได้

Copyright © 2010-2025 GoVisa All rights reserved

ทุนธนาคารกรุงเทพประจำปี 2025

ธนาคารกรุงเทพประกาศมอบทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโททั้งสถาบันในต่างประเทศ (ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ประเทศแคนาดา สหภาพยุโรป ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และประเทศสิงคโปร์) และสถาบันในประเทศไทย (โดยต้องเป็นหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษเท่านั้น) ประจำปี 2568 รวมจำนวน 25 ทุน โดยจะเปิดรับสมัครผ่านทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 – 16 เมษายน 2568 โปรดศึกษารายละเอียดจากเว็บไซต์ของธนาคารกรุงเทพ https://www.bangkokbank.com/th-TH/About-Us/Bangkok-Bank-Scholarships อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้ให้ทุนแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

ทุนในต่างประเทศ

ก. ทุนปริญญาโทในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิชาด้าน Digital & Technology/ ESG / Sustainability

จำนวน 17 ทุน (ทั้งพนักงาน/ บุคคลภายนอก) โดยผู้สมัครชิงทุนจะต้องได้รับจดหมายตอบรับจากสถาบันที่อยู่ในรายชื่อที่ธนาคารกรุงเทพกำหนด

  • ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับการตอบรับให้ไปเรียนวิชาใดวิชาหนึ่งเหล่านี้ Computer Science, MIS, Computer Engineering, Software Engineering, Innovation, Artificial Intelligence, Machine Learning, Data Science, Data Analytics, Business Analytics, Big Data, Cyber Security, Blockchain, Fintech จากรายชื่อสถาบันดังต่อไปนี้
    • Harvard University
    • Massachusetts Institute of Technology
    • Stanford University
    • University of Chicago
    • University of Pennsylvania
    • University of California Berkeley
    • New York University
    • Columbia University
    • Yale University
    • University of California- Los Angeles
    • Dartmouth College
    • Northwestern University
    • Cornell University
    • University of Michigan
    • University of Texas – Austin
    • Duke University
    • Carnegie Mellon University
    • University of Southern California
    • University of Washington
    • University of Virginia
  • สหราชอาณาจักร ได้รับจดหมายตอบรับให้ไปศึกษาวิชาใดวิชาหนึ่งเหล่านี้ ได้แก่ สาขา Computer Science, MIS, Computer Engineering, Software Engineering, Innovation, Artificial Intelligence, Machine Learning, Data Science, Data Analytics, Business Analytics, Big Data, Cyber Security, Blockchain, Fintech สาขา Finance, ESG, Sustainability และอื่นๆ จากรายชื่อสถาบันดังต่อไปนี้
    • University of Oxford
    • University of Cambridge
    • Imperial College London
    • The University of Edinburgh
    • University College London
    • The University of Manchester
    • The University of Warwick

ข. ทุนด้าน MBA จำนวน 5 ทุน (ทั้งพนักงาน/ บุคคลภายนอก)

  • ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ไปศึกษาด้านใดด้านหนึ่ง คือ ด้าน MBA (เฉพาะหลักสูตร 2 ปี) ด้าน Finance, ESG, Sustainability และอื่น ตามรายชื่อสถาบันที่ธนาคารกำหนด
    • Harvard University
    • Massachusetts Institute of Technology
    • Stanford University
    • University of Chicago
    • University of Pennsylvania
    • University of California Berkeley
    • New York University
    • Columbia University
    • Yale University
    • University of California- Los Angeles
    • Dartmouth College
    • Northwestern University
    • Cornell University
    • University of Michigan
    • University of Texas – Austin
    • Duke University
    • Carnegie Mellon University
    • University of Southern California
    • University of Washington
    • University of Virginia
  • สหราชอาณาจักร ให้ทุนศึกษาด้าน MBA จากสถาบันใดสถาบันหนึ่งต่อไปนี้
    • London Business School
    • The University of Manchester
  • ประเทศแคนาดา สหภาพยุโรป ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และประเทศสิงคโปร์
    • สาขา ESG/ Sustainability ธนาคารไม่ได้ระบุชื่อสถาบัน

ทุนประเภทที่ 3 เป็นทุนที่ให้เฉพาะพนักงานเท่านั้น คือ ทุนไปเรียนด้าน Finance และอื่นๆ ได้แก่ Economics, Digital Marketing และ Law จำนวน 3 ทุน

ทุนในประเทศไทย

ธนาคารขอสงวนสิทธิการให้ทุนในประเทศ (หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ) ที่ศึกษานอกเวลาราชการ (Flexible Time) เฉพาะพนักงานธนาคารกรุงเทพ เท่านั้น 

ชื่อสถาบันชื่อหลักสูตร
สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( Full/Flexible Time)Master of Business Administration
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( Full/Flexible Time)Master of Business Administration
Master of Computer Science and Information Technology
Master of Science in Finance
Master Program in Financial Engineering
Master of Arts in Business and Managerial Economics
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Flexible Time)Master of Business Administration Program in Global Business Management
Master of Science Program in Finanace
มหาวิทยาลัยมหิดล (Flexible Time)Master of Business Administration Program
Master of Management in Corporate Finance

คุณสมบัติของผู้สมัครที่เป็นบุคคลภายนอก

  1. อายุไม่เกิน 30 ปี (นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร)
  2. ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย หากเป็นชายต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือได้รับยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
  3. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
  4. ไม่เคยรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาล เว้นแต่เป็นความผิดที่เป็นลหุโทษ หรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
  5. เป็นผู้ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
  6. ได้รับการตอบรับหรืออยู่ระหว่างรอจดหมายตอบรับจากสาขาและมหาวิทยาลัยที่ธนาคารกำหนด

หลักฐานการสมัคร

  1. รูปถ่ายสี หน้าตรง ไม่สวมหมวก หรือแว่นตาดำ ไม่เกิน 6 เดือน ขนาด 1 นิ้ว
  2. ประวัติส่วนตัว (Curriculum Vitae) เป็นภาษาอังกฤษ
  3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  4. สำเนาผลการศึกษาในระดับปริญญาตรี
  5. สำเนาผลการสอบที่มหาวิทยาลัยกำหนด เช่น TOEFL, IELTS, GMAT, GRE
  6. ใบตอบรับจากสถาบันการศึกษาที่ธนาคารกำหนด (ถ้ามี)
  7. รายละเอียดหลักสูตรและรายวิชา ที่มุ่งเน้นประโยชน์และความสำคัญของเนื้อหาวิชา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการศึกษา
  8. หนังสือรับรองสำหรับสมัครขอทุนการศึกษาระดับปริญญาโทจากผู้บังคับบัญชา หรืออาจารย์ ระดับมหาวิทยาลัย (Recommendation Form) ตามแบบฟอร์มที่ธนาคารกำหนด จำนวน 2 ชุด

การสอบข้อเขียนและการสัมภาษณ์

  • การสอบข้อเขียน ประกอบไปด้วย Aptitude Test, Personality Test,  English Test และ Emotional Intelligence  รอบแรก เดือนกุมภาพันธ์ 2568 รอบที่ 2 เดือน เมษายน 2568
  • การสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกนักเรียนทุนธนาคาร รอบแรก เดือนมีนาคม 2568 รอบที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2568

หากมีข้อสงสัยโปรดติดต่อสอบถามไปที่ธนาคารกรุงเทพ ตามที่อยู่ งานพัฒนาและเตรียมผู้บริหาร สายทรัพยากรบุคคล ชั้น 2 บมจ. ธนาคารกรุงเทพ สำนักงานพระราม 3 โทร. 0 2296 8358, 0 2685 7842 อีเมล: [email protected]

Copyright © 2010-2025 GoVisa All rights reserved

ประเทศใหม่ๆที่นักศึกษาต่างชาตินิยมไปศึกษาต่อมากขึ้น

จากวารสาร Pie เมื่อวันที่ 7 มกราคม ค.ศ. 2025 แสดงให้เห็นว่า มีประเทศใหม่ๆที่ไม่ได้อยูในกลุ่ม Big Four คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย ที่มีนักศึกษาต่างชาตินิยมไปศึกษาต่อต่างประเทศมากขึ้น ประเทศใหม่ๆ 10 ประเทศ ได้แก่

ประเทศเยอมนี

มีการคาดการณ์กันว่า จะมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 400,000 คนเข้าเรียนในประเทศเยอรมนีในภาคเรียนฤดูหนาวปี 2024/25 ชาวอินเดียกลายเป็นกลุ่มนักศึกษาต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี โดยมีนักศึกษาอินเดีย เกือบ 50,000 คน รองลงมาคือนักศึกษาจีน ที่ 40,000 คน แม้จะมีการเติบโตของนักศึกษาต่างชาติ แต่นักศึกษาต่างชาติก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคในเรื่องวีซ่า การหาที่พัก ค่าครองชีพ รวมถึงปัญหาอื่นๆอีกด้วย

ประเทศฝรั่งเศส

ในปีการศึกษา 2023/24 มีนักศึกษาต่างชาติลงทะเบียนเรียนในสถาบันอุดมศึกษาของฝรั่งเศสมากกว่า 430,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.5% จากปีก่อน ตามข้อมูลของ Campus France ประธานาธิบดีฝรั่งเศส Emmanuel Macron ได้ตั้งเป้าหมายที่จะดึงดูดนักศึกษาชาวอินเดีย ให้ได้ 30,000 คนภายในปี ค.ศ.2030 https://timesofindia.indiatimes.com/india/30000-indian-students-in-france-in-2030-president-emmanuel-macron-sets-ambitious-target/articleshow/107168446.cms

เหตุผลทำไมฝรั่งเศสจึงต้องการเพิ่มจำนวนนักศึกษาอินเดียในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อินเดียและฝรั่งเศสพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนเรียกฝรั่งเศสว่า “เพื่อนใหม่ที่ดีที่สุด” ของอินเดีย เนื่องจากทั้งสองประเทศได้สร้างความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ในด้านการป้องกันประเทศ พลังงานนิวเคลียร์ และอวกาศแล้ว การศึกษาจึงกลายเป็นเครื่องมือทางการทูตที่สำคัญ จากวารสาร Pie วันที่ 29 เดือนตุลาคม ค.ศ.2024 (https://thepienews.com/france-expects-to-house-10k-indian-students-this-year/) ฝรั่งเศสมีมหาวิทยาลัยที่ยอดเยี่ยมหลายแห่งและมีหลักสูตรหลากหลายที่มีราคาถูกกว่าประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมาก นอกจากนี้หลักสูตรมากกว่า 1,700 หลักสูตรในฝรั่งเศสทั้งปริญญาตรีและปริญญาโทก็พยายามให้มีหลักสูตรที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่นักศึกษาอินเดีย ฝรั่งเศสยังจัดให้มีทัวร์ Choose France จัดโดย Campus France (https://www.inde.campusfrance.org/choose-france-tour) เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาอินเดียได้มีโอกาสพบกับตัวแทนสถาบันต่างๆในฝรั่งเศสเพื่อพบปะพูดคุยเกี่ยวกับการเรียนและการใช้ชีวิตในฝรั่งเศสว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ โครงการ Classes Internationales ที่เปิดตัวในเดือนกันยายน ค.ศ.2024 (https://classesinternationales.org/) เป็นโครงการริเริ่มที่มุ่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคด้านภาษาและโอกาสในการจ้างงานในหมู่นักศึกษาชาวอินเดียที่มุ่งหน้าสู่ฝรั่งเศส นักศึกษาจะได้เรียนภาษาฝรั่งเศสในหลักสูตรปูพื้นฐานที่ประเทศฝรั่งเศส โดยมีหลักสูตรเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่สนใจ นักศึกษาบางคนอาจได้รับทุนการศึกษาเมื่อโครงการสิ้นสุดลง สถาบันชั้นนำในฝรั่งเศสและอินเดียได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างทั้งสองประเทศ เช่น École Polytechnique ซึ่งเป็นสถาบันชั้นนำด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์แห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ได้ลงนามในข้อตกลงกับสถาบันเทคโนโลยีแห่งอินเดียสองแห่ง ได้แก่ IIT Bombay และ IIT Delhi เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาด้านการวิจัยไปด้วยกัน

ประเทศเกาหลีใต้

ด้วยอิทธิพลทางวัฒนธรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ตามข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวเกาหลี ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 205,000 คนที่กำลังศึกษาอยู่ในเกาหลีใต้ โดยเกาหลีใต้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาต่างชาติให้เป็น 300,000 คนภายในปีค.ศ. 2027 เวียดนาม จีน และอุซเบกิสถาน เป็นตลาด 3 อันดับแรกของเกาหลีสำหรับนักศึกษาต่างชาติ มี นักศึกษาจีน คิดเป็น 40% ของนักศึกษาต่างชาติทั้งหมดในเกาหลีใต้ ในขณะที่นักศึกษาเวียดนาม คิดเป็น 23% จำนวนนักศึกษาต่างชาติจากประเทศสหรัฐอเมริกายังเพิ่มขึ้น 8 เท่าตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 2000 โดยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 834 คนในปีการศึกษา 2002/03 เป็น 5,909 คนในปีการศึกษา 2022/23

จำนวนนักศึกษาอเมริกันที่ศึกษาในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากความนิยมในวัฒนธรรมป๊อปเกาหลีและโปรแกรมที่สอนเป็นภาษาอังกฤษแล้ว ยังมีเหตุผลสำคัญที่นักศึกษาอเมริกันเลือกเกาหลีใต้ นั่นก็คือความเป็นเลิศทางวิชาการ เกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของโลกหลายแห่ง โดยมีโปรแกรมที่แข็งแกร่งในสาขา STEM และเน้นการวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยที่ติดอันดับต้นๆของโลก ได้แก่ Seoul National University(SNU) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า Harvard of South Korea SNU เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านความเป็นเลิศในหลากหลายสาขา โดยเฉพาะด้านการแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยแห่งนี้มักถูกมองว่ามีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษในด้านกฎหมายและธุรกิจด้วย , Korea University นิตยสาร US News and World Report ของสหรัฐอเมริกาให้ Korea University ติดอันดับที่ 58 ของโลกด้าน Artificial Intelligence ติดอันดับที่ 45ทางด้าน Biotechnology and Applied Microbiology ติดอันดับที่ 77 ด้าน Engineering ( https://www.usnews.com/education/best-global-universities/korea-university-505391) และ Yonsei University ที่มีชื่อเสียงในด้านความเป็นเลิศในสาขาวิชาต่างๆ มากมาย เช่น ธุรกิจ วิศวกรรมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และการแพทย์ ทั้งสามมหาวิทยาลัยที่กล่าวมามีคำย่อเรียกกันว่า SKY

นอกจากเกากลีใต้จะมีมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการและเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมแล้ว เกาหลีใต้ยังมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อไม่สูงเมื่อเทียบกับประเทศตะวันตกหลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำกว่า เกาหลีใต้จัดเป็นประเทศที่ปลอดภัยมากและมีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำ ทำให้เป็นประเทศที่น่าดึงดูดให้นักศึกษาต่างชาติเลือกไปศึกษาต่อ เกาหลีใต้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติได้ด้รับทุนการศึกษา และเกาหลีใต้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและโปรแกรมการวิจัยอันล้ำสมัย ดังนั้นจำนวนนักศึกษาต่างชาติจึงเพิ่มขึ้นถึงขั้นที่ต้องการทำงานในประเทศหลังจากศึกษาจบ โดยผลสำรวจของหลายสำนัก บ้างก็เผยให้เห็นว่า มีนักศึกษาต่างชาติ 4 ใน 10 คนวางแผนที่จะอยู่ต่อและหางานทำ บ้างก็บอกว่า มีนักศึกษาต่างชาติ 8 ใน 10 คนวางแผนที่จะอยู่ต่อและหางานทำ https://m.koreaherald.com/article/3493015

ประเทศญี่ปุ่น

ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติ 280,000 คนในญี่ปุ่น แต่เป้าหมายสำหรับปี 2033 คือ 400,000 คน แม้ว่าจีนจะเป็นตลาดที่มาของนักศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น แต่ผู้ส่งรายใหญ่รายอื่นๆก็คือเนปาล เวียดนาม เกาหลีใต้ และเมียนมาร์ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในญี่ปุ่นกำลังวางกลยุทธ์เพื่อดึงดูดนักศึกษาต่างชาติให้มากขึ้น มหาวิทยาลัยโตเกียวเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่าหลักสูตรปริญญาตรีและปริญญาโท 5 ปีแบบใหม่จะมีนักศึกษาต่างชาติ 50% โดยมีหลักสูตรที่สอนทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าญี่ปุ่นตั้งใจที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาเพื่อชดเชยประชากรสูงอายุในปัจจุบัน ซึ่งทำให้การขอวีซ่าเป็นเรื่องง่ายขึ้น https://english.kyodonews.net/news/2024/02/7820d4d2c38e-univ-of-tokyo-to-launch-new-5-yr-program-with-50-foreign-students.html

ประเทศจีน

ในปี 2021 ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการของจีนรายงานว่ามีนักศึกษาระดับปริญญาตรีทั้งหมด 35 ล้านคนและนักศึกษาระดับปริญญาโท 3.3 ล้านคนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ 255,720 คนเป็นนักศึกษาต่างชาติที่เรียนเต็มเวลา ซึ่งคิดเป็นเพียง 1% ของจำนวนนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนทั้งหมดทั่วประเทศ ประเทศจีนจึงเป็นที่รู้จักในฐานะตลาดแหล่งนักศึกษาต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีนักศึกษาต่างชาติจำนวนมากอีกด้วย

ประเทศนิวซีแลนด์

การศึกษาระหว่างประเทศของประเทศนิวซีแลนด์กำลัง “ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง” โดยเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแซงหน้าจำนวนนักศึกษาในปี 2023 ถึง 6% ตามข้อมูลที่รัฐบาลนิวซีแลนด์เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม การวิเคราะห์ใหม่ได้คาดการณ์ว่านิวซีแลนด์จะฟื้นตัวเต็มที่หลังโควิดในด้านจำนวนนักศึกษาต่างชาติภายในปี 2025 นิวซีแลนด์มีเป้าหมายที่จะเพิ่มการสนับสนุนทางเศรษฐกิจเป็น 4.4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2027 โดยส่วนใหญ่จะเป็นการดึงดูดนักศึกษาต่างชาติให้เข้ามาในประเทศมากขึ้น

แม้ว่าจีนและอินเดีย จะยังคงเป็นแหล่งนักศึกษานานาชาติที่ใหญ่ที่สุด แต่ประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ไทย เยอรมนี ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ ก็มีส่วนสนับสนุนจำนวนนักศึกษาเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันแต่ละประเทศคิดเป็น 3% ของจำนวนผู้ลงทะเบียนเรียนนานาชาติทั้งหมด https://thepienews.com/new-zealands-international-education-sector-booms/

ประเทศมาเลเซีย

ตามข้อมูลของ Education Malaysia พบว่ามีนักศึกษาต่างชาติจากเอเชียตะวันออกเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยนักศึกษาจีน เป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าเป้าหมายเบื้องต้นในการเข้าถึงนักศึกษาต่างชาติ 200,000 คนภายในปี 2020 จะหยุดชะงักลงเนื่องจากการระบาดใหญ่ แต่ปัจจุบันประเทศมีเป้าหมายที่จะทำให้ถึงเป้าหมาย 250,000 คนภายในปีค.ศ.2025 นอกจากนี้ มาเลเซียยังเปิดตัวตัวเลือกวีซ่าใหม่สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยอนุญาตให้พวกเขาและผู้ติดตามอยู่ต่อในประเทศได้นานถึง 1 ปีเพื่อศึกษาต่อ เดินทาง หรือทำงานนอกเวลา https://www.malaymail.com/news/malaysia/2023/11/27/home-minister-grads-from-23-countries-to-get-one-year-pass-to-study-travel-and-work-part-time-in-malaysia/104486

ประเทศไอร์แลนด์

ในแผน Global Citizens 2030, International Talent and Innovation Strategy ฉบับใหม่ ไอร์แลนด์ได้ส่งเสริมแผนที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาและนักวิจัยจากต่างประเทศในประเทศขึ้นร้อยละ 10 ภายในปี 2030 ภายในปี 2030 รัฐบาลจะแต่งตั้งผู้ช่วยทูตด้าน Talent and Innovation จำนวน 6 คนประจำสถานทูตและสถานกงสุลไอร์แลนด์ในภูมิภาคสำคัญๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไอร์แลนด์มุ่งเป้าไปที่นักศึกษาจากเอเชียใต้และแอฟริกา แม้ว่าปัจจุบันไอร์แลนด์จะมีสัดส่วน นักศึกษาชาวอินเดีย สูงที่สุดในสหภาพยุโรป แต่มหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์ก็ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาจากประเทศในแอฟริกาเป็น 2 เท่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เป้าหมายคือการเพิ่มความหลากหลายและคุณภาพของนักศึกษาที่รับสมัครด้วย https://thepienews.com/ireland-to-double-number-of-african-students-in-five-years/ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเติบโต แต่นักศึกษาต่างชาติในไอร์แลนด์ได้เรียกร้องให้ปรับปรุงสิทธิและประสบการณ์ของตน เนื่องจากพวกเขาต้องเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นในด้านที่อยู่อาศัย การเหยียดเชื้อชาติ และการจ้างงาน

ประเทศตุรกี

ในปีการศึกษา 2022/23 มีนักศึกษาต่างชาติมากกว่า 300,000 คนที่ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยของตุรกี ซึ่งบรรลุเป้าหมายที่คณะกรรมการความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของตุรกีกำหนดไว้ในปี2021 ตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นว่า จำนวนนักศึกษาต่างชาติในตุรกีในปีการศึกษา 2013/14 เพิ่มขึ้นเป็น 48,183 คน

ในปีการศึกษา 2022/23 มี 34 ประเทศที่ส่งนักศึกษาไปเรียนที่ตุรกีมากกว่า 1,000 คน โดยมีประเทศชั้นนำที่นิยมส่งนักศึกษาไปศึกษาต่อที่ตุรกีมากเรียงลำดับ ดังนี้คือ ซีเรีย 58,213 คน อาเซอร์ไบจาน 34,247 คน อิหร่าน 22,632 คน เติร์กเมนิสถาน 18,250 คน และ อิรัก 16,172 คน ประมาณการกันว่ามีนักศึกษาชาวแอฟริกัน 40,000 คนจาก 54 ประเทศที่กำลังศึกษาอยู่ในตุรกี โดย 1 ใน 3 เป็นผู้หญิง และ 20% ลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรบัณฑิตศึกษา (Postgraduate programs การที่ตุรกีได้รับความสนใจในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการศึกษาที่กำลังเติบโต ทำให้ประธานาธิบดีเออร์โดกันเองก็ชื่นชมการสนับสนุนทางเศรษฐกิจที่มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติเพิ่มมากขึ้น

ประเทศอิตาลี

อิตาลีเป็นจุดหมายปลายทางการศึกษาที่สำคัญอีกแห่งในสหภาพยุโรป โดยประเทศนี้ยังเป็นตลาดสำคัญสำหรับนักศึกษาจากสหรัฐอเมริกาที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศอีกด้วย ในปีการศึกษา 2022/23 อิตาลีกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักศึกษาจากสหรัฐอเมริกา โดยดึงดูดนักศึกษาที่ไปศึกษาต่อในต่างประเทศได้ 15% ซึ่งเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดล่าสุดที่กำหนดให้ผู้สมัครวีซ่าประเภท D ซึ่งรวมถึงนักศึกษาในโครงการที่มีระยะเวลานานกว่า 90 วัน ต้องทำการนัดหมายที่สถานกงสุลอิตาลีเพื่อทำการพิมพ์ลายนิ้วมือ ได้ทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความต้องการด้านการบริหารงานที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับสถานกงสุลและนักศึกษาที่คาดว่าจะไปศึกษาต่อ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า นโยบายดังกล่าวอาจทำให้นักศึกษาเลือกจุดหมายปลายทางเป็นประเทศอื่น และอาจทำให้แนวโน้มปัจจุบันของนักศึกษาที่ต้องการเข้าร่วมโครงการศึกษาต่อในต่างประเทศระยะสั้นมีความท้าทายมากขึ้น

ที่มา: https://thepienews.com/top-study-destinations-outside-the-big-four-in-2024/?utm_campaign=The%20PIE%20Weekly%202023&utm_medium=email&_hsmi=341910280&utm_content=341910280&utm_source=hs_email

Copyright © 2010-2025 GoVisa All rights reserved

จำนวนนักศึกษาต่างชาติที่ไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 2024 สถาบันการศึกษานานาชาติ (Institute of International Education: IIE) ได้เผยแพร่รายงาน Open Doors ประจำปี รายงานดังกล่าวถูกพิมพ์เผยแพร่ทุกปี ประกอบด้วยข้อมูลโดยละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับนักศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่ไหลเข้าและออกจากสหรัฐอเมริกาในปีการศึกษาก่อนหน้าคือปีค.ศ. 2023 รายงานของ Open Doors ประจำปีค.ศ. 2024 แสดงให้เห็นว่า มีนักศึกษาต่างชาติจำนวน 1,126,690 คน กำลังศึกษาต่ออยู่ในสหรัฐอเมริกาในปีการศึกษา 2023–2024 ซึ่งคิดเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2022-2023 จำนวนนักศึกษาต่างชาติสูงสุดตลอดกาลในประเทศสหรัฐอเมริกามาจากประเทศอินเดียและจีน ประเทศอินเดียกลายเป็นประเทศต้นทางอันดับ 1 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 โดยมีนักศึกษาเพิ่มขึ้น 35% ส่วนจีนก็ยังคงเป็นแหล่งที่มาของนักศึกษาต่างชาติรายใหญ่เป็นอันดับ 2 แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนนักศึกษาจีนก็ลดลง 4% เมื่อเทียบจากปี 2022 8 ประเทศใน 25 ประเทศแรก รวมถึงบังกลาเทศ โคลอมเบีย กานา และเนปาล มีนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในสหรัฐอเมริกาจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ แอฟริกาใต้สะฮารามีนักศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึง 13 % https://opendoorsdata.org/fact_sheets/fast-facts/

ประเทศที่มีนักศึกษาเข้าไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาเกิน 10,000 คน

ชื่อประเทศปีการศึกษา 2022-2023ปีการศึกษา 2023-2024
India268,923331,602
China289,526277,398
South Korea43,84743,149
Canada27,87628,998
Taiwan21,83423,157
Vietnam21,90022,066
Nigeria17,64020,029
Bangladesh13,56317,099
Brazil16,02516,877
Nepal15,09016,742
Mexico14,54115,474
Saudi Arabia15,98914,828
Japan16,05413,959
Iran10,81212,430
Pakistan10,16410,988
United Kingdom10,65910,473
Colombia9,09610,120

จำนวนนักศึกษาต่างชาติที่ลงทะเบียนเรียนต่อระดับปริญญาโท ( Graduate) เพิ่มขึ้น 8 % ในขณะที่จำนวนนักศึกษาปริญญาตรี ( Undergraduate) ลดลงเล็กน้อย 1 %

มีนักศึกษาต่างชาติ 56 % ที่เลือกลงทะเบียนเรียนในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM) โดยสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการวิเคราะห์ข้อมูลยังคงเป็นสาขาที่ได้รับความนิยมสูงสุด

วิชาที่สนใจไปเรียนต่อปีการศึกษา 2022-2023ปีการศึกษา 2023-2024
Math & Computer Science240,230280,922
Engineering202,801210,163
Business Management157,281159,810
Physical & Life Science84,83088,717
Social Sciences85,99884,307
Fine & Applied Arts51,68954,159
Health Profession34,85636,615
Communications & Journalism21,99021,481

รัฐ California, รัฐ New York และรัฐ Texas เป็นรัฐที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด รายชื่อ 10 รัฐที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด

ชื่อรัฐปีการศึกษา 2022-2023ปีการศึกษา 2023-2024
California138,393140,858
New York126,782135,813
Texas80,75789,546
Massachusetts79,75182,306
Illinois55,33762,299
Pennsylvania48,59350,514
Florida42,59044,767
Michigan33,50138,123
Ohio34,20436,884
Missouri24,26032,647

15 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่มีนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด

ชื่อมหาวิทยาลัยชื่อรัฐปีการศึกษา 2023-2024
New York University New York27,247
Northeastern UniversityMassachusetts21,023
Columbia UniversityNew York20,321
Arizona State University, Campus ImmersionArizona18,430
U. of Southern CaliforniaCalifornia17,469
U. of Illinois, Urbana ChampaignIllinois15,376
Boston UniversityMassachusetts12,853
U. of California, BerkeleyCalifornia12,441
Purdue University, West LafayetteIndiana12,181
U. of North TexasTexas11,917
U. of Michigan, Ann ArborMichigan11,766
U. of WashingtonWashington10,720
U.of Texas, DallasTexas10,491
U. of California, San DiegoCalifornia10,467
U. of California, Los AngelesCalifornia10,446

รายงานของ Open Doors ยังได้ระบุที่มาของแหล่งเงินทุนที่นักศึกษาต่างชาติเข้าไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปรากฏว่า เป็นนักศึกษาทุนส่วนตัวหรือทุนจากครอบครัวสนับสนุนให้มาเรียนมากถึง 54.5% เป็นนักศึกษาทุนรัฐบาลของประเทศต่างๆประมาณ 1.8%

สำหรับประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศไทยและประเทศเวียดนามถูกจัดว่า ส่งนักศึกษาเข้าไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกามากที่สุด ประเทศไทยครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่ถูกจัดอันดับว่า มีจำนวนนักศึกษาเข้าไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกามากเป็นอันดับ 9 อย่างไรก็ตาม อันดับของประเทศไทยเริ่มตกลงตั้งแต่ปีค.ศ. 2010 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 15 ปีค.ศ. 2012 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 17 ปีค.ศ 2013 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 20 ปีค.ศ. 2015 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 23 ปีค.ศ.2016 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 24 ตั้งแต่ปีค.ศ. 2017 ประเทศไทยไม่ได้ติดอยู่ในรายชื่อ 25 ประเทศที่ส่งนักศึกษาเข้าไปศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกามากที่สุด https://opendoorsdata.org/wp-content/uploads/2024/11/Fast-Facts_2010-2023.pdf

สาเหตุหลักๆที่นักศึกษาไทยเลือกไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาลดลงมีหลายประการ อาทิ การแข่งขันในเรื่องการศึกษาต่อต่างประเทศมีสูงขึ้น ประเทศที่เป็นคู่แข่งของประเทศสหรัฐอเมริกาคือสหราชอาณาจักร สหราชอาณาจักรมีการทำการตลาดด้านการศึกษาให้คนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โครงสร้างทางการศึกษาที่แตกต่างกันก็มีผลต่อการตัดสินใจเลือกประเทศไปศึกษาต่อ ปริญญาตรีในสหราชอาณาจักรใช้ระยะเวลาในการเรียน 3 ปี ไม่นับสก็อตแลนด์ที่ยังคงใช้ระยะเวลาในการเรียนนาน 4 ปี ส่วนปริญญาโทในสหราชอาณาจักรใช้ระยะเวลาในการเรียนนาน 1 ปี ยกเว้นปริญญาโทที่เน้นทำวิจัยใช้เวลา 2 ปี ปริญญาเอกในสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่ใช้เวลา 4 ปี ขณะที่สหรัฐอเมริกาอาจใช้เวลาถึง 5 ปี จำนวนระยะเวลาที่ใช้ในการศึกษาที่น้อยกว่าทำให้ใช้งบประมาณในการศึกษาต่อต่างประเทศต่างกัน วิธีการรับเข้าศึกษาต่อก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักศึกษาไทยนิยมไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรมากขึ้น เป็นต้นว่า นักศึกษาที่ต้องการไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่สหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องมีผลสอบ Graduate Record Examination (GRE) ยื่นให้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้อาจจะมีสาเหตุอื่นๆอีก เช่น ความปลอดภัย วัฒนธรรม การใช้ชีวิต เป็นต้น

ส่วนประเทศเวียดนามที่เป็นอีกหนึ่งประเทศในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ส่งนักศึกษาไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐอเมริกามากชึ้น ประเทศเวียดนามเริ่มติดอันดับ 8 ทุกปีตั้งแต่ปีค.ศ. 2012 และขยับเป็นอันดับ 6 ในปีค.ศ. 2016 และอันดับ 5 ในปีค.ศ. 2022 จนถึงปัจจุบัน นักศึกษาเวียดนามจะนิยมไปศึกษาต่อปริญญาตรีมากที่สุด และยินดีที่จะเริ่มเรียนใน Community College ก่อน Transfer ไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัย นักศึกษาเวียดนามมากกว่า 47.1% เลือกที่จะศึกษาต่อด้าน Science, Technology, Engineering และ Math ( https://tuoitrenews.vn/news/education/20231106/about-30000-vietnamese-students-study-in-us/76572.html) นักศึกษาเวียดนามถือว่า มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกามีคุณภาพสูง มีศักยภาพในการที่จะก้าวหน้าในอาชีพการงาน ถ้าพวกเขามีปริญญาจากอเมริกา พวกเขาจะสามารถเข้าถึงแหล่งทุนการศึกษาได้ สหรัฐอเมริกามีสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่หลากหลาย และมีโอกาสได้รับประสบการณ์ระดับนานาชาติที่มีค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาเช่น วิทยาการคอมพิวเตอร์และธุรกิจ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดงานของเวียดนาม

Copyright © 2010-2025 GoVisa All rights reserved