อายุเยอะแล้ว จะมีผลทำให้ถูกปฏิเสธวีซ่าไหม

ขอ อนุญาตใช้คำถามอย่างที่น้องๆชอบถามกัน จริงๆแล้วอายุมากไม่ได้เป็นปัญหาที่จะทำให้เราไม่ผ่านวีซ่ากัน ขอเพียงเตรียมเอกสารและเตรียมตัวตอบคำถามให้ดี เพื่อทำให้กงสุลทราบว่าเรามีแผนการจะไปทำอะไรในสหรัฐอเมริกา และใครจะเป็นคนส่งเงินค่าใช้จ่ายไปให้เราใช้  คนส่งเงินมีอาชีพ มีรายได้แน่นอน  เคยมีประสบการณ์ให้คำแนะนำอยู่หลายครั้ง เรื่องผู้ขอวีซ่าอายุใกล้ 30 หรือ บางรายอายุเกิน 30 แต่ยังมีไฟ อยากไปเรียนต่อที่อเมริกา สิ่งแรกเราคงต้องคุยกันเรื่องประวัติการเรียนที่ผ่านมา ถ้าเรียนสำเร็จไม่มีปัญหาแน่นอน ถ้าเรียนไม่สำเร็จ ถือเป็นกรณีศึกษาค่อนข้างเสี่ยงมาก หลังจากเรียนจบมีงานทำหรือไม่  ถ้ามีงานทำไม่มีปัญหา ถ้าตกงานนาน หรือบางคนไม่ได้คิดหางานทำเป็นเวลานาน 1 ปีขึ้นไป สองเหตุหลังต้องมารื้อฟื้นกันว่าจริงๆแล้วเราเคยทำอะไรมาบ้าง บางคนเคยเรียนพิเศษภาษาอังกฤษอยู่ระยะหนึ่ง บางคนทำงานแล้วไม่ชอบ ลาออก แต่ก็เคยทำงานที่เป็นฟรีแลนซ์มาบ้าง เหล่านี้เป็นข้อมูลที่เราจะต้องมานั่งคิดทบทวนและจดไว้ เพราะเราอาจลืมสิ่งที่เราเคยทำในอดีตไปแล้ว ด้วยคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย  ข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์มากเวลากงสุลถามถึง ช่วงที่ผ่านมาว่าเราทำอะไรบ้าง เราจะได้เรียบเรียงข้อมูลไว้ตอบคำถาม

ขอเล่าเรื่อง 2 เรื่องที่เคยพบ จริงๆมีมากกว่า 2 เรื่องนะ

ถ้าใครอยากรู้อะไรลองเขียนมาถามนะคะ เรื่องแรก น้องกรทำงานกับธนาคารชื่อดัง 1 ใน 3 ของเมืองไทย นาน 6 ปี เจ้าตัวอายุ 32 ปี อยากไปเรียนต่อ MBA ที่อเมริกา แต่ไม่อยากสอบ GMAT ที่เมืองไทย เคยลงเรียน TOEFL แต่ไม่กล้าสอบ แนะนำให้สอบทั้ง 2 อย่างให้เรียบร้อย พูดอยู่นานหลายครั้งเหมือนกัน ชี้ให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายที่แพง และถ้าไม่สำเร็จจะเหมือนไม่ได้วุฒิอะไรกลับมา ในที่สุดยอมไปสอบ น้องกรได้คะแนนดีทั้ง TOEFL และ GMAT น้องกรต้องการสมัครมหาวิทยาลัย ที่ตั้งอยู่ในเมือง Chicago เพราะมีเพื่อนอยู่ น้องกรโชคดีได้ I-20 เข้าเรียน MBA จาก Depaul University เจ้าตัวสุดแสนดีใจ แต่ก็ยังกลัวปัญหาวีซ่าอยู่ ต้องปลอบใจกันว่าอย่ากังวลเลย เพราะ I-20 ที่ได้บอกวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนแล้วว่าจะไปทำอะไร ที่กังวลเพราะอายุ 32 ปี และลาออกจากธนาคารมา 2 ปี เพื่อเตรียมตัวเรียนภาษาอังกฤษ น้องกรไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ รับทำงานฟรีแลนซ์ไปด้วย แนะนำให้ลองไปคุยกับเจ้านายเก่าที่เคยทำฟรีแลนซ์ เจ้านายเข้าใจ ช่วยทำจดหมายรับรองว่า คนๆนี้ทำบัญชีเป็นฟรีแลนซ์ให้ เตรียมเอกสารกันอย่างดี และเตรียมซ้อมตั้งคำถามตอบคำถามกัน ในที่สุดก็ได้วีซ่าไปเรียนจนจบ กลับมาทำงานที่เมืองไทยแล้ว

น้องตุ้ยเป็นอีกคนที่โชคดี เพิ่งไปเรียนต่อปริญญาโทได้ยังไม่ถึงหนึ่งเดือน ก่อนไปเกิดความกังวลว่าตัวเองอายุเยอะแล้ว เคยไป ท่องเที่ยวที่อเมริกานาน 3 ถึง 4  เดือน แถมขอทำเรื่อง extend visa อยู่ต่ออีก 6 เดือนคิดแล้วก็เกือบ1 ปี ตอนนี้น้องตุ้ยคิดอยากไปเรียนต่อปริญญาโทด้าน Computer Science จริงๆ  ลงทุนสอบทั้ง TOEFL แล GRE ให้เรียบร้อย เพราะจะได้ช่วยที่บ้านเประหยัดค่าใข้จ่าย น้องตุ้ยติดต่อเองจนมีมหาวิทยาลัยตอบรับ  เผอิญมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง Chicago อีกเหมือนกัน น้องตุ้ยกลัวกงสุลไม่เชื่อว่าจะไปเรียนจริงๆ ต้องคุยกันอยู่นานว่าที่ไปท่องเที่ยวอเมริกานานเกือบ 1 ปีไปทำอะไรหรือ ถามไปถามมาได้ความว่าเบื่องานที่เมืองไทย มีน้องชายเรียนปริญญาเอกที่อเมริกา เลยไปอยู่กับน้องนาน 1 เดือน ไม่ชอบเมืองที่น้องอยู่ เพราะมีปัญหาโรคภูมิแพ้ เมืองนั้นมี hay fever ต้องย้ายไปอยู่กับเพื่อนที่เรียนอยู่แถว Seattle ทำนองค้นหาว่าตัวเองต้องการอะไร ฝันเฟื่องไปนั่งอ่านหนังสือในห้องสมุดที่ University of Washington เห็นนักศึกษาเดินถือหน้งสือไปเข้าห้องเรียน เกิดอารมณ์อยากกลับไปเป็นนักศึกษากับเขาบ้าง แต่ก็ยังดีที่กลับมาตั้งหลักที่เมืองไทยก่อน โดยการทำงานเป็นนักวิจัยฟรีแลนซ์ๆอีกแล้วให้สถาบันหนึ่งของเมืองไทย คิดโปรแกรมคอมพ์ว่า จะจัดระบบการเว้นวรรคตอนภาษาไทยอย่างไร ตอนหลังเริ่มคิดว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปเรียนต่อปริญญาโทแน่ๆ  เลยเริ่มติดต่อ จนได้รับจดหมายตอบรับ แต่ก็ไม่วายเป็นกังวลเรื่องจะผ่านวีซ่าไหม แล้วก็โดนถามโดนสัมภาษาณ์มากจริงๆดังที่กลัว แต่แล้วก็ค้นพบว่าเจ้า I-20 ที่ระบุป้าหมายที่ชัดเจน ว่ารับเข้าเรียนต่อปริญญาโท computer science มีส่วนช่วยอยู่มากผู้ค้ำประกันเองก็มีความผูกพันชัดเจนว่าเป็นมารดา มีบัญชีครอบคลุมค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 1 ปีตามที่ได้รับคำแนะนำ เอกสารต่างๆ รวมถึงบุคลิกภาพ และวิธีการตอบคำถามของน้องตุ้ย มีส่วนช่วยทำให้กงสุลเข้าใจ  และมีโอกาสได้วีซ่าไปเรียนต่อ

Copyright © 2010 GoVisaEdu All rights reserved.

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top
Scroll to Top