การเตรียมตัวเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา (ตอนที่ 1)

นักศึกษาควรจองตั่วเครื่องบินเสียแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะนักศึกษาที่จะเดินทางไปเรียนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (Fall) เพราะตั๋วเครื่องบินช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงที่มีการเดินทางหนาแน่น การจองวันที่เดินทางอาจไม่เป็นไปตามที่ผู้เดินทางต้องการ นอกจากการซื้อตั๋วเครื่องบินผ่านเอเจนซี่แล้ว ในปัจจุบันนักศึกษายังสมารถซื้อตั๋วได้เอง online ราคาซื้อตั่ว online บางครั้งถูกกว่าซื้อผ่านเอเจนซี่ด้วยซ้ำไป

นักศึกษาควรอ่าน Routing หรือ Itinerary การเดินทางให้เข้าใจ มีนักศึกษาบางท่านไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับตารางการบินที่เอเจนซี่ส่งให้

ตัวอย่างเช่น  นักศึกษาท่านหนึ่งจะออกเดินทางจากกรุงเทพวันที่ 4 สิงหาคม โดยสายการบิน United Airline เที่ยวบินที่ UA882 เวลา 6.50 น.สายการบินใช้เวลาในการบินนาน 6 ชั่วโมง 10 นาที  ตอนเช้า นักศึกษาควรไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิก่อนหน้าเครื่องบินออกอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อทำการตรวจชั่งน้ำหนักกระเป๋า, เช็คบัตรที่นั่ง (Boarding Pass ซึ่งในปัจจุบันนักศึกษาสามารถเช็คและยืนยันที่นั่งออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของสายการบินได้)) , หนังสือเดินทาง นักศึกษาท่านนี้จะเดินทางถึง Washington DC ในวันที่ 4 สิงหาคมเช่นกัน แต่เป็นเวลา 15.35 น. ในรัฐ Washington DC  ในช่วงที่ 2 นี้ใช้เวลาในการบินนาน 12 ชั่วโมง 35 นาที นอกจากนี้ยังมีบอกจำนวนมื้ออาหารที่เสริฟบนเครื่องบินอีกด้วย และที่สำคัญนักศึกษาไม่ควรลืมเปลี่ยนเวลาตามเมืองที่เครื่องบินหยุดจอด

นักศึกษาที่จะเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาควรเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้ไว้ในกระเป๋า Carry-on หรือกระเป๋าสะพายติดตัวตลอดการเดินทาง ได้แก่

1. หนังสือเดินทางที่มีวีซ่านักเรียนประกอบอยู่

2. I-20

3. Sevis I-901 ที่ Homeland Security Department ส่งให้ที่บ้านนักศึกษาทางไปรษณีย์ หากนักศึกษาทำ Sevis I-901 ตัวจริงหาย ให้นำใบที่ print จากเครื่องคอมพิวเตอร์และเคยนำไปแสดงให้กงสุลดูในวันสอบสัมภาษณ์ติดไปด้วย

4. เงินที่นำติดตัวเดินทางไป (ทุกประเภท)

5. ตั๋วเครื่องบิน

6. ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของบุคคลที่จะมารับ หรือที่อาจจะขอความช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัยได้

7. ยาที่จำเป็น หรือ กุญแจกระเป๋า(เช่น กุญแจกระเป๋าเดินทางของ TSA)

8. ใบขับขี่รถยนต์ของประเทศไทย( ในบางรัฐอนุญาตให้ใช้ใบขับขี่ไทยได้) และหรือ ใบขับขี่สากล ทั้งหมดนี้จะใช่ชั่วคราว ถ้าเป็นนักศึกษาอยู่นาน  ปีขึ้นไปต้องสอบใบขับขี่ของรัฐนั้นๆ

Copyright © 2010 GoVisaEdu All rights reserved.

8 Replies to “การเตรียมตัวเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกา (ตอนที่ 1)”

  1. ขอบคุณมากคะที่บอกวิธีการอย่างละเอียด ตื่นเต้นมากเลยค่ะ ^^

    1. น้องบู้บี้ อย่าลืมเปลี่ยนเวลาที่นาฬิกาข้อมือเวลาถึงจุหมายแต่ละจุดด้วยนะคะ ที่เตือนเพราะน้องอาจจะเผลอเรอคิดว่า ยังมีเวลาเหลืออยู่ และเดินดูโน่นนี่ ทำให้อาจพลาดเที่ยวบินได้ค่ะ

  2. พี่คะ ตอนขึ้นเครื่องนี่เค้าดูเอกสารอะไรกันบ้างคะ

    แค่พวกใบ custom, I-20, sevis, visa, ตั๋วเครื่องบิน มีแค่นี้ก้อพอใช้ไม๊คะ รวมถึงด่าน ตม.อเมริกาด้วยก้อใช้เอกสารเท่านี้ใช่หรือเปล่า ไม่ต้องมีใบตรวจสุขภาพอะไรใช่ไหมคะ? หนูจะบินวันที่ 19 นี้แล้วค่ะ ตื่นเต้นๆ เข้ามาถามเพื่อความแน่ใจอีกที

    1. น้องบู้บี้คะ ที่สนามบินสุวรรณภูมิน้องยื่นตั๋วเครื่องบิน หนังสือเดินทาง และแบบฟอร์ม Embarkation Card ที่กรอกเสร็จแล้ว ฟอร์มนี้บางเอเจนซี่ขายตั๋วเครื่องบินจะมีไว้ให้ลูกค้าเลย แต่ถ้าไม่ได้รับ ไม่ต้องกังวลค่ะไปขอได้ที่เคาน์เตอร์Check-in ที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ
      ที่สนามบินที่เป็นจุดTransit เช่น สนามบินนาริตะ ดูแค่ตั๋วเครื่องบิน Boarding Pass และ หนังสือเดินทาง
      ที่สนามบินปลายทาง หรือ สนามบินแห่งแรกที่น้องบินถึงอเมริกาหรือเรียกว่า Port of Entry เช่น สนามบินแอลเอ สนามบินที่ซานฟรานซิสโก น้องยื่นเอกสารดังนี้ที่ตม.ของอเมริกาหรือ Immigration ค่ะ คือ หนังสือเดินทาง, I-20, I-94 เป็นแบบฟอร์มที่แอร์โฮสเตสแจกให้บนเครื่องบิน,ใบเสร็จ Sevis I-901 (สำหรับใบนี้แนะนำให้เอาติดไปในแฟ้มด้วยเพราะอิมมิเกรชั่นบางคนขอดูบางคนไม่ขอดูเพราะอันที่จริงเขาเช็คได้จากคอมพิวเตอร์อยู่แล้วว่าน้องจ่่ายเงินนี้แล้ว),จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของsponsor ตอนน้องไปขอวีซ่าก็ได้นะคะ(เอกสารใบนี้ก็เช่นเดียวกันเอาไปเผื่อ เพราะมีเจ้าหน้าที่บางคนสัมภาษณ์น้องที่ด่านตม.และขอดูหลักฐานทางการเงินของที่บ้านค่ะ)
      ที่ด่านศุลกากรหลังจากน้องผ่่านด่านตรวจตม.เสร็จน้องไปตรวจกระเป๋าเดินทางที่ด่านศุลกากรด้วยค่ะ น้องยื่นฟอร์ม Custom Declarationที่แอร์โฮสเตสบนเครื่องบินแจกให้กรอกก่อนเครื่องบินถึงแอลเอหรือซานฟรานซิสโก ผ่านด่านตรวจนี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีการตรวจคนเข้าเมืองสหรํฐค่ะน้องเดินออกไปพบเพื่อนที่มารับที่สนามบินได้ แต่ถ้าการเดินทางของน้องยังไม่สิ้นสุดต้องต่อตั๋วไปในวันนั้นเลย น้องไม่ต้องเดินออกไปข้างนอกตรงบริเวณที่มีคนมารับ ให้น้องมองหาป้ายที่เขียนว่า Flight Connection หาไม่เจอ เวลากระชั้น รีบถามเจ้าหน้าที่ว่า น้องจะต้อง connect flight ไป เช่น Orlando ของสายการบินชื่อนี้ ให้เขาช่วยบอกทางเดินให้ น้องก็เข็นกระเป๋าไปเคาน์เตอร์ connect flight เพื่อส่งกระเป๋าเดินทางให้เจ้าหน้าที่สายการบินนั้นๆ ส่วนตัวน้องเดินไปที่ชั้น departure เพื่อเดินต่อไปยัง gate ที่จะไปขึ้นเครื่องบินค่ะ Have a safe trip นะคะ

  3. ขอบคุณพี่ govisa มากนะคะสำหรับข้อมูล เป็นประโยชน์กับพีชมากเลยทีเดียวคะ
    เพราะเป็นการเดินทางครั้งแรกในชีวิต แล้วก็จัดการเรื่องเองทุกอย่าง แหล่งข้อมูลก็พยายามหาจาก internetคะ
    หากสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อย ขออนุญาตเข้ามาแชร์ประสบการณ์ให้พี่ๆเพื่อนๆรับทราบด้วยคนนะคะ
    ขอบคุณอีกครั้งคะ
    พีช

    1. ขอบคุณน้องพีชมากค่ะที่ใจดีส่งข่าวเรื่องคิวนัดค่ะ ขอให้น้องพีชมีสมาธิตั้งใจตอบคำถามให้ดีที่สุด และขอให้ได้วีซ่าค่ะ

  4. พี่ govisa พอจะมีข้อมูลเรื่องการซื้อตั๋วบ้างไหมคะ เช่นซื้อจาก agency รายใดหรือซื้อ online ผ่าน website ไหนดีอ่ะคะ
    วันสัมภาษณ์ของพีชค่อนข้างกระชั้นชิดกับวันเปิดเทอมมากๆคะ หากซื้อหลังจากสัมภาษณ์เสร็จแล้ว ตั๋วน่าจะราคาสูงพอสมควรเลยคะ

    1. ทราบว่า TV Airbooking แถววัดแขกก็มีขายราคาถูก แต่มีคนบอกว่า เขาไปซื้อทางออนไลน์ของแต่ละสายการบิน ก็มีสิทธิ์ได้ราคาถูกเหมือนกันค่ะ ลองโทรถามสายการบินนั้นๆโดยตรงว่า ราคาเท่าไร และถามว่าเขาพอรู้ไหมว่า ใครเป็นagent ขายตั่วถูกเขา เพราะเท่าที่รู้จากคนรู้จัก คนที่ทำงานสายการบินนั้นๆนั่นแหละ เขาจะพอรู้จักกับบริษัทที่ขายตั๋วของสายการบินเขาในราคาถูกค่ะ และลองถามด้วยว่ามีราคาพิเศาให้นักศึกษาไหม ไม่ได้การันตีว่าต้องมีนะคะ แต่ถามไว้ก็ดี เพื่อโชคดีได้จังหวะเขามีโปรโมชั่นค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *