หลายๆคนชอบตั้งคำถามว่า จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารควรจะมีเนื้อความว่าอย่างไร จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร คือ อะไร ใช่ Statement ที่แสดงรายการฝาก-ถอนเงินไหม ฯลฯ
จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร คือ จดหมายที่ออกโดยธนาคารที่ Sponsor ของนักศึกษามีบัญชีเงินฝากอยู่ เนื้อความในจดหมายของแต่ละธนาคารในเมืองไทย มีลักษณะใกล้เคียงกัน กล่าวคือ อธิบายสถานะทางการเงินของผู้รับผิดชอบ เรื่องค่าใช้จ่ายของนักศึกษาว่า มียอดเงินสุดท้ายจำนวนเท่าไรทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศ เช่น สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ ส่วนใหญ่ผู้ค้ำประกัน หรือ Sponsor มักเป็นพ่อแม่ของนักศึกษาเอง บางคนอาจใช้ญาติ ซึ่งก็ควรเป็นญาติใกล้ชิดมากกว่า ใช้เพื่อนของพ่อหรือเพื่อนของแม่เป็นผู้ค้ำประกัน เพราะดูไม่น่าเชื่อถือว่า ท่านเหล่านั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบทางการเงิน ให้นักศึกษาไปจนกว่านักศึกษาจะเรียนจบได้หรือไม่ ด้วยบุคคลเหล่านั้นไม่ได้มีความผูกพัน ทั้งทางพฤตินัยแลนิตินัยที่ต้องรับผิดชอบนักศึกษา บัญชีที่จะใช้รับรองควรเป็นบัญชีส่วนบุคคลมากกว่าบัญชีบริษัท และเป็นบัญชีที่เปิดมานานแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน หลายสถานศึกษาที่ต้องการให้นักศึกษา ระบุความสัมพันธ์ระหว่างชื่อบริษัท กับชื่อผู้เป็น Sponsor ก่อนที่สถานศึกษาจะส่ง I-20 ให้ ทั้งนี้เพราะบัญชีบริษัทเป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจครอบครัว หากธุรกิจมีปัญหา สถานศึกษาไม่มั่นใจว่า นักศึกษาจะได้รับเงินเพียงพอ เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียน และการดำรงชีวิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ นักศึกษามักสงสัยว่าควรใช้บัญชีประเภทใด เช่น บัญชีประจำ บัญชีสะสมทรัพย์ หรือ บัญชีกระแสรายวัน ของผู้ปกครองดี เป็นที่น่าสังเกตว่าทั้งสถานศึกษา และสถานทูตนิยมสภาพคล่อง ความสะดวก และเงื่อนไขในการถอนเงินของบัญชีสะสมทรัพย์มากกว่าบัญชีเงินฝากประจำ ทั้งนี้เพราะบัญชีเงินฝากประจำมักมีข้อกำหนดในเรื่องระยะเวลา ซึ่งเวลาลงทะเบียนเรียนของนักศึกษา อาจไม่ตรงกับวันครบกำหนดรอบเงินฝากประจำของผู้ปกครองนักศึกษา หากถอนเงินก่อนครบกำหนดเพื่อส่งเงินไปให้นักศึกษาใช้ ผู้ปกครองนักศึกษาอาจสูญเสียผลประโยชน์ที่พึงควรได้รับ คำแนะนำ คือ หากจะใช้บัญชีประจำ หรือบัญชีกระแสรายวันซึ่งมักเป็นบัญชีบริษัท ควรมีบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์เพิ่ม เป็นทางเลือกอีกหนึ่งบัญชีแนบไปกับบัญชีกระแสรายวัน หรือแนบไปกับบัญชีประจำด้วย ทั้งในตอนสมัครเรียน หรือ ในตอนขอวีซ่า
จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารจะใช้ใน 2 กรณี คือ
1. ใช้ในการสมัครเรียน โดยส่งไปพร้อมใบสมัครเรียน สถานศึกษาบางแห่งจะแจ้งให้ผู้สมัครเรียนทราบด้วยว่า ต้องการให้จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของผู้ค้ำประกัน มีตัวเลขทางการเงินอย่างต่ำเท่าไร เช่น การส่งสมัครเรียนภาษาที่ San Francisco State University มหาวิทยาลัยต้องการให้ผู้ค้ำประกันมีเงินในบัญชีอย่างต่ำ US$ 29,000 แต่บางแห่งไม่ได้ระบุไว้ ให้นักศึกษาหาข้อมูลจากเว็บไซต์สถานศึกษานั้นๆ หรือจากใบสมัครของสถานศึกษาที่ต้องการส่งสมัครว่า มีค่าใช้จ่ายคร่าวๆจำนวนเท่าไร ผู้ปกครองควรมีบัญชีเงินฝากในธนาคารอย่างน้อยเท่ากับ ค่าใช้จ่ายหนึ่งปีการศึกษาของสถานศึกษานั้นๆ
อนึ่ง มหาวิทยาลัยที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆหลายแห่ง ไม่ได้เรียกร้องขอดูจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร ในตอนส่งสมัครเรียน เช่น รายละเอียดการส่งสมัครเรียน Master Degree ที University of Southern California แต่เมื่อนักศึกษาได้รับการตอบรับจากสถานศึกษานั้นๆแล้ว สถานศึกษาจึงจะขอดูจดหมายรับรองฐานะการเงินในภายหลัง เป็นต้น
https://gradadm.usc.edu/wp-content/uploads/2016/01/16_-Intl_App_Checklist4-0.pdf
2.จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารจะใช้อีกครั้ง ในตอนสอบสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่ากับทางสถานทูต สถานทูตต้องการทราบว่า ผู้ยื่นขอวีซ่ามีผู้สนับสนุนทางการเงินมากพอ โดยนักศึกษาไม่มีความจำเป็นต้องมีข้อแก้ตัวว่า ได้รับเงินจากผู้ปกครองไม่เพียงพอ จำเป็นต้องออกไปหางานทำนอกมหาวิทยาลัย
อนึ่ง ไม่ควรขอจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร ไว้ก่อนล่วงหน้านานๆ กงสุลต้องการเห็นเอกสารที่แสดงตัวเงิน ใกล้เคียงกับตัวเลขในบัญชีธนาคารในปัจจุบันมากที่สุด ดังนั้นจดหมายรับรองฐานะการเงิน ที่นำไปแสดงที่สถานทูตไม่ควรมีอายุเกิน 3 เดือนนับจากวันที่ออกมา ในขณะที่การส่งสมัครเรียนสถานศึกษา จดหมายรับรองฐานะการเงินไม่ควรมีอายุมากกว่า 6 เดือน นับจากวันที่ธนาคารออกจดหมายมา
หมายเหตุ การขอจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ธนาคารด้วย ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยคิดค่าบริการไม่เท่ากัน มีตั้งแต่ราคา 100 บาท ถึง 300 บาท ต่อ 1ฉบับ
Copyright © 2010 GoVisaEdu All rights reserved.
เคยขอจดหมายรับรอง ไว้เมื่อ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่แปลงเงินในบัชชีเป็น US
เพื่อส่งให้ที่เรียน จะนัดสัมภาษณ์อาทิตย์หน้าต้องไปขอใหม่ไหมคะพี่?
กงศุลต้องการขอดูเป็นเงินไทยหรือเปล่าคะ? เพราะยอดเงินเข้าออกตลอดอ่าค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่
น้อง Nannie คะ ในวันสัมภาษณ์น้องควรนำบุ๊คบัญชีตัวจริงไปด้วยค่ะ น้องไม่ต้องวิตกว่าจะต้องไปขอจดหมายฉบับใหม่ที่ระบุเป็นจำนวนเงินบาทนะคะ และไม่ต้องขอจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารของบัญชี Sponsor ใหม่อีก เพราะข้อมูลยัง Update อยู่ ถ้าจดหมายดังกล่าวมีอายุนับจากวันที่ออกมาเกิน 3 เดือนควรขอจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคารใหม่ค่ะ
น้องแนนคะ น้องจะไม่ได้กรอกข้อมูลใดๆเพิ่มเติมที่สถานทูต ยกเว้นบาร์โค้ดถ้าไม่ชัดเจนเจ้าหน้าที่สถานทูตจะให้น้องกรอกข้อมูลใหม่ทั้งหมดที่สถานทูตค่ะ ดังนั้นในวันสอบสัมภาษณ์ให้น้องนำ transcript ไปพร้อมใบยืนยัน DS-160 ใบเก่าค่ะ อันที่จริงพี่ไม่แน่ใจว่า น้องคลิกตัวเลือกใดผิดพลาดหรือเปล่าค่ะ หรือนิ้วไปถุกตัวไหนบนแป้น keyboard เช่นคลิกเลือกเร็วไปนืดหนึ่งหรือเปล่านะคะ จึงทำให้เกิดกรณีเช่นนั้นได้ค่ะ ถ้าน้องขอวีซ่านักเรียนและอยากให้มีเจ้าหน้าที่ช่วยดูสอนกรอกให้ ลองปรึกษาเจ้าหน้าที่ EducationUSA หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งจากเว็บไซต์นี้ค่ะ http://www.educationusa.info/Thailand#.Tw24Xm9p4ug พี่คิดว่า เจ้าหน้าที่เขาคงให้ความช่วยเหลือน้องได้บ้างค่ะ ส่วนจดหมายรับรองฐานะการเงินไม่ต้องขอใหม่นะคะ เพราะอายุของจดหมายยังไม่เกิน 3 เดือน วันสัมภาษณ์ให้น้องแนนนำบุ๊คบัญชีของ sponsor ไปด้วยนะคะ ถ้ากงสุลขอดูบุ๊ค จะได้เห็นยอดเงินไทยจำนวนล่าสุดค่ะ
ขอบคุณที่น้องส่ง link มาให้ เป็นประโยชน์มากๆนะคะ และคงจะช่วยน้องๆได้อีกหลายคนค่ะ พี่เคยอ่านแล้ว ข้อมูลดังกล่าวมาจากหน้าเว็บไซต์ขอวีซ่าของสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพ ตั้งแต่ยุคที่เริ่มนำแบบฟอร์ม DS-160 มาใช้ครั้งแรกๆค่ะ