F-1 visa ต่างจาก M-1 visa อย่างไร

F-1 visa คือ วีซ่านักเรียนทุนส่วนตัว ผู้ที่ได้รับ I-20 จากสถานศึกษาไม่ว่าจะเป็นระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนสอนภาษา วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย เมื่อยื่นขอวีซ่าจะได้รับวีซ่าประเภท F-1 นักศึกษาสามารถขอวีซ่าก่อนล่วงหน้าที่สถานศึกษาจะเปิดเรียนได้ไม่เกิน 120 วัน และสามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ก่อนล่วงหน้าเปิดเรียนไม่เกิน 30 วัน กรณีนักศึกษาที่ต้องการเดินทางเข้าไปก่อนล่วงหน้า 30 วัน ต้องใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปในสหรัฐอเมริกา

ในกรณีที่เข้าประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวไปก่อนนั้น ก่อนหน้าเปิดภาคเรียน นักศึกษาจะต้องยื่นแบบฟอร์ม I-539 และ I-20 ไปที่ Department of Homeland Security Office เพื่อเปลี่ยนสถานะภาพวีซ่าจากนักท่องเที่ยว(B1/B2) เป็นวีซ่านักเรียน(F-1) สิ่งที่นักศึกษาต้องรับทราบ คือ นักศึกษาจะยังลงทะเบียนเรียนไม่ได้ ถ้าการเปลี่ยนสถานะภาพวีซ่ายังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ

ผู้ที่มีคุณสมบัติได้รับวีซ่านักเรียน (F-1) คือ ผู้ที่ไม่ได้มีถิ่นพำนักอยู่ในสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ที่แสดงความตั้งใจจริง ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว และผู้ค้ำประกันมีหลักฐานทางการเงิน ที่มากพอจะให้นักศึกษาได้ศึกษาจนจบหลักสูตร เอกสารที่จำเป็นในการยื่นขอวีซ่าหลักๆมีดังนี้คือ

1. ฟอร์ม I-20A-B กรณีขอวีซ่า F-1 หรือฟอร์ม I-20M-N กรณีขอวีซ่า M-1
2. กรอกฟอร์ม DS-160
3. หนังสือเดินทาง
4. รูปถ่ายขนาด 2 นิ้วคูณ 2 นิ้ว จำนวน 1 ใบ ซึ่งปัจจุบันให้ Upload ไปใส่ไว้ในฟอร์ม DS-160 ได้เลย
5. ใบเสร็จค่า MRV fee หรือค่าธรรมเนียมวีซ่าจ่ายที่ไปรษณีย์ ราคา ณ วันที่18 กุมภาพันธ์ 2554 คือ 4,200 บาท
6. ใบเสร็จค่า Sevis I-901 จำนวน 200 เหรียญ
7. ผลการเรียน หรือ Transcript
8. ผลคะแนน TOEFL, GMAT, GRE, SAT ฯลฯ
9. หลักฐานทางการเงินที่แสดงว่า ผู้ปกครองมีความสามารถที่จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายของนักศึกษาได้ทั้งหมด นับตั้งแต่ค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัว

นักศึกษาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์นี้ http://travel.state.gov/visa/temp/types/types_1268.html

ในกรณีผู้ยื่นขอวีซ่า F-1 ต้องการให้คู่สมรสและลูกติดตามไปด้วย ควรให้คู่สมรสและลูกขอวีซ่าพร้อมผู้ยื่นขอวีซ่า F-1 หากจะยื่นตามในภายหลัง คู่สมรสและลูกจะต้องมีเอกสารทางการศึกษาคือ I-20 ของผู้เรียนแนบเป็นหลักฐานให้กงสุลพิจารณาด้วย คู่สมรสและลูกจะได้รับวีซ่าผู้ติดตาม หรือ F-2 visa

การคงรักษาสถานะภาพนักศึกษาไว้คือ การลงทะเบียนเรียนเต็มเวลา และไม่สามารถทำงานนอกเขตมหาวิทยาลัยได้

นักศึกษาที่ถือวีซ่า F-1 มีระยะเวลา 60 วัน ในการโอนย้ายที่เรียนใหม่ หรือภายหลังจบการศึกษานักศึกษาจะมีระยะเวลา 60 วันในการเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศของตนเอง สำหรับผู้ถือวีซ่า M-1 จะมีระยะเวลา 30 วัน ในการโอนย้ายที่เรียน หรือ 30 วันในการเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศของตนเองหลังจากจบการศึกษาแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ถือวีซ่า M-1 สามารถขอขยายเวลาในการเรียนจาก 2 ปีออกไปเป็น 3 ปีได้อีกด้วย นักศึกษาทั้ง F-1 และ M-1 ที่เดินทางออกมานอกสหรัฐอเมริกาเกินกว่า 5 เดือนต้องทำการยื่นขอวีซ่าใหม่

โดยทั่วไป นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตั้งแต่ชั้นเรียนที่ 9-12 (หรือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-6) ไม่มีสิทธิ์เข้าเรียนในโรงเรียนรัฐบาล ยกเว้นลูกของผู้ที่ได้รับวีซ่านักเรียนประเภท F-1 ดังนั้น นักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนที่จะไปเข้าเรียนในระดับมัธมศึกษา จะได้รับวีซ่าประเภท J-1 โดยมีกำหนดระยะเวลาการศึกษาไว้เพียง 12 เดือน หลังจากนั้นถ้าต้องการศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาให้จบ Grade 12 หรือมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนต้องย้ายไปเข้าเรียนในโรงเรียนประเภท Private school และจ่ายค่าเล่าเรียนเต็ม สถานะภาพวีซ่าของนักเรียนจะปลี่ยนจาก J-1 ไปเป็น F-1 visa โดยนักเรียนจะกลับมาเปลี่ยนสถานะภาพวีซ่าในประเทศที่ตนเองถือหนังสือเดินทาง

และ


M-1 visa
คือ วีซ่านักเรียนสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเรียนหลักสูตรระยะสั้น ประเภทหลักสูตรวิชาชีพ เพื่อรับประกาศนียบัตรจากวิทยาลัยประเภท Community College หรือโรงเรียนเฉพาะทาง เช่น โรงเรียนสอนดูเพชรพลอย หรือออกแบบเพชรพลอย โดยวิทยาลัยประเภท Community College จะมีหลักสูตรระยะสั้นหลากหลายประเภทมากพอสมควรทีเดียว เช่น หลักสูตร Emergency Medical Service หลักสูตรศิลปะการทำอาหาร (Culinary Arts) เป็นต้น

ข้อสังเกต ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาด้วย M-1 visa จะไม่สามารถเปลี่ยนสถานะภาพเป็น F-1 visa ได้ ในขณะที่ผู้ที่เดินทางไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาด้วย F-1 visa จะสามารถเปลี่ยนเป็น M-1 visa ได้ เช่น หลังจากเรียนจบ MBA ต้องการเรียนหลักสูตรทำอาหารเพิ่มเติมอีก 9 เดือน ต้องเปลี่ยนสถานะภาพจาก F-1 visa เป็น M-1 visa ให้นักศึกษาปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่ International Student Office เพื่อขอเอกสารและดำเนินการเปลี่ยนแปลงสถานะภาพวีซ่า

Copyright © 2010-2011 GoVisa All rights reserved.

18 Replies to “F-1 visa ต่างจาก M-1 visa อย่างไร”

  1. ขอรบกวนสอบถามครับ
    ผมเคยอยู่เกินจากวีซ่ามาประมาณ2ปี กลับมาไทยปี2015 ตอนนี้ถือใบอนุญาตินักบินพาณิชย์ตรี แล้วอยากจะกลับไปเพื่อเรียนต่อเกี่ยวกับครูการบิน บินเก็บชั่วโมง ดูข้อมูลในweb ที่จะไปเรียน ว่าจะต้องมีM1 วีซ่า เลยอยากสอบถามว่าจะมีโอกาสที่จะได้รับวีซ่าหรือป่าวครับ เพราะว่าอยู่เกินน่าจะติดblacklist ไปแล้ว
    ขอบคุณครับ

  2. สวัสดีคะ ขอสอบถามนะคะ พอดีหนูจะเดินทางไปเรียนหลักสูตรระยะสั้น ตอนนี้ได้ I-20 จากทางโรงเรียนเเล้ว กำลังจะขอวีซ่า M-1 แต่ว่าถ้าต้องการเดินทางไปล่วงหน้ามากกว่า 30 วันก่อนเปิดเรียน เราสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวไปก่อนได้มั้ยคะ เเล้วถ้าตอนขอวีซ่าสามารถขอทั้งท่องเที่ยวกับ M-1 ได้มั้ยคะ

    1. น้องฝ้ายคะ หลังจากที่เราได้คุยกันเมื่ิอวันศุกร์ที่ 6 เมษายนทาง Facebook Page แล้ว ถ้าน้องมีติดขัดปัญหาในการกรอกฟอร์มวีซ่า สามารถติดต่อเข้ามาได้อีกนะคะ ขออวยพรให้น้องฝ้ายได้รับวีซ่าทั้ง M-1 และ B-1/B-2 ทันเวลา เพื่อจะได้เข้าไปเที่ยวที่อเมริกาก่อนเข้าเรียนค่ะ ได้รับวีซ่าแล้วส่งข่าวด้วยนะคะ จะได้ร่วมแสดงความยินดีค่ะ

  3. สวัสดีค่ะพี่ govisa ขอสอบถามนะคะ
    1. เนื่องจากเคยได้วีซ่าท่องเที่ยว(B1/B2)เมื่อปีที่แล้วแบบ10ปีค่ะ และปีนี้จะไปขอวีซ่า F-1 เพื่อเรียนภาษาประมาน 6-12 เดือนหลังเรียนจบค่ะ(ตอนนี้เรียนอยู่ปี4) อยากทราบว่าวีซ่าท่องเที่ยวจะถูกยกเลิกรึป่าวคะ และมีโอกาสโดนปฎิเสธวีซ่าสูงไหมคะ
    2. ตอนเราไปขอวีซ่า F-1 แต่มีแม่ไปขอวีซ่าท่องเที่ยว สามารถเข้าพร้อมกันได้ไหมคะ เพราะแม่อาจจะไม่ค่อยรู้เรื่องค่ะ
    3. ถ้าได้วีซ่า F-1 สามารถเข้าประเทศก่อนได้ 30 วัน เราสามารถเที่ยวไปหลายรัฐได้เลยใช่ไหมคะ และระหว่างช่วงที่เรียนอยู่เราสามารถกลับประเทศเราหรือไปประเทศอื่นได้ไหมคะ

    ^^ คำถามยาวเลยค่ะ ขอบคุณมากเลยนะค่ะ

    1. น้อง Teraa คะ
      1. น้องสามารถมีสองวีซ่าคือวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่านักเรัยนได้ แต่การที่น้องจะอยู่ใน่สหรัฐฯในสถานะใดขึ้นอยู่กับตอนที่น้องสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ถ้าน้องแสดง I-20 พร้อมวีซ่านักเรียนแปลว่าน้องจะเข้าเมืองในฐานะนักเรีบน ก็จะไม่มีการใข้วีซ่าท่องเที่ยวในช้วงเวลานั้น ถ้าเรัยนจบกลับไทย อยากไปเที่ยวอีกและวีซ้าท่องเที่ยวยังมีอายุอยู่ก็ไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าอีกค่ะ
      2.คุณแม่เข้าไปขอวีซ่าพร้อมน้องได้ถ้านัดวันและเวลาเดียวกันค่ะ
      3.วีซ่านักเรียนอนุญาตให้นักเรียนเข้าประเทศสหรัฐฯก่อนหน้าวันที่ที่ระบุ start date ใน I-20 ได้ไม่เกิน 30 วันน้องจะไปเที่ยวรัฐอื่นได้ค่ะ และระหว่างเรียนน้องสามารถบินกลับมาเยี่ยมบ้านได้ หรือไปเที่ยวประเทศอื่นก็ได้ค่ะ แต่ถ้าอยู่นอกประเทศสหรัฐฯเกินกว่าห้าเดือนต้องขอวีซ้านักเรียนใหม่ถ้าต้องการจะกลับไปเรียนค่ะ

  4. มีคำถามเกี่ยวกับการจองวันสัมพาทวีซ่าค่ะ ในหน้าเว็บจองวีซ่ามีเลขของพาสพอทอันเก่าค่ะ พยายามแก้แต่แก้ไม่ได้ค่ะ จะแก้ไขตัวเลขพาสพอสในเว็บได้อย่างไรค่ะ หนูพยายามจะสมัครสมาชิคใหม่ก็ไม่ได้ สงสัยชื่อตรงกับอันเก่า หนูควรทำอย่างไรดีค่ะ

    1. น้อง amie ถ้าน้องยืนยันว่ายื่น DS-160 ไปแล้วน้องจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ค่ะนอกจากกรอก DS-160 ใหม่ และเปลี่ยนอีเมล์ใหม่เวลานัดสัมภาษณ์ว่าจะไปชำระค่าธรรมเนียมีซ่า น่าจะกรอกหมายเลขหนังสือเดินทางใหม่ได้ค่ะ

  5. สวัสดีค่ะ คือว่า หนูจะไป ฝึกงานที่เมากา ประมาณ สามเดือน เรียนอยู่ปีสามค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องกรอก วีซ่า เป็นประเภทไหนค่ะ

    1. น้อง Dueandara ขึ้นอยู่กับเอกสารที่ได้รับการตอบกลับมาค่ะ ถ้าเป็น Ds-2019 ก็จะเป็น J-1 visa ค่ะ พอบอกได้ไหมคะว่าเอกสารที่ได้หน้าตาเป็นอย่างไรค่ะ

  6. ในกรณีที่เข้าประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวไปก่อนนั้น ก่อนหน้าเปิดภาคเรียน นักศึกษาจะต้องยื่นแบบฟอร์ม I-539 และ I-20 ไปที่ Department of Homeland Security Office เพื่อเปลี่ยนสถานะภาพวีซ่าจากนักท่องเที่ยว(B1/B2) เป็นวีซ่านักเรียน(F-1) สิ่งที่นักศึกษาต้องรับทราบ คือ นักศึกษาจะยังลงทะเบียนเรียนไม่ได้ ถ้าการเปลี่ยนสถานะภาพวีซ่ายังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ

    มีขั้นตอน และ ต้องยื่นเรื่องยังไงค่ะ ทางเน็ตหรือไปที่นั่นเลย เรียนที่ LA ค่ะ

    1. น้อง Panida คะ พี่ขอแนะนำให้น้องไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลนักเรียนต่างชาติของมหาวิทยาลัยที่ออก I-20 ให้น้องเข้าเรียนนะคะ พี่ขอยกตัวอย่างคำอธิบายของ International Student Office ที่ U. of Washington โดยเข้าไปอ่านที่เว็บไซต์ http://iss.washington.edu/procedures/change-status/b-1-b-2-to-f-1 จะมีคำอธิบายว่าเอกสารที่ต้องใช้ยื่นขอเปลี่ยนสถานภาพจากวีซ่า B-1/B-2 ไปเป็น F-1 ไว้ และมีหมายเหตุที่นักศึกษาควรยื่นขอเปลี่ยนสถานภาพไว้ก่อนหน้าเปิดภาคเรียนหลายเดือน เพราะขั้นตอนการอนุมัติการเปลี่ยนแปลงสถานภาพวีซ่าต้องใช้เวลาดำเนินการ

      Overview

      Contact the International Student Services (ISS) as soon as you know you must obtain F-1 status in order to discuss your options. This change of status can be especially challenging, and it may be best to travel, apply for an F-1 visa abroad, and reenter the U.S. in F-1 status.

      Notes

      The regulations prohibit beginning a full course of study until the change of status to F-1 is approved.

      F-1 status cannot begin earlier than 30 days before the start date on your I-20. You should submit your application several months in advance, and you must be able to maintain your current   B-1/B-2 status until 30 days before the I-20 start date. If your tourist status will expire prior to 30 days before your I-20 start date, your application will most likely be denied. Even though you are allowed to stay in the U.S. while the application is pending, if your application is likely to be denied, it will be better for you to travel, obtain an F-1 visa abroad, and reenter the U.S. in F-1 status.

      Your foreign, non-U.S. address must be listed in the permanent address field in the UW student database. If this field currently shows a U.S. address, please submit your foreign address to [email protected] with your name and student ID number and we will update the student database in accordance with the F-1 regulations.

      ดังนั้นน้องควรไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ International Student Office ของสถานศึกษาที่รับน้องเข้าเรียนเสียแต่เนิ่นๆค่ะว่า น้องเข้าสหรัฐฯมาก่อนล่วงหน้าที่ที่เรียนจะเปิดเทอมด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และต้องการเปลี่ยนจากวีซ่าท่องเที่ยวเป็นวีซ่านักเรียน ต้องเตรียมเอกสารอะไรหรือส่งเอกสารไปที่ที่อยู่อะไร เว็บไซต์ของบรรดา International Student Office หลายแห่ง บางแห่งอธิบายละเอียด บางแห่งให้น้องเข้าไปติดต่อกับหน่วยงานของเขาโดยตรง International Student Office ของ U.of Rhode Island แนะนำว่า เมื่อเตรียมเอกสารเสร็จแล้ว น้องต้องส่งเอกสารไปที่ USCIS +ชื่อรัฐ +Center ที่ดูแลรัฐที่น้องจะไปเรียนต่อค่ะ พี่เห็นว่ามีข้อมูลที่ชัดเจนจึงส่งลิงก์มาให้ดูค่ะ http://www.uri.edu/iss/forms/i-539.pdf รายละเอียดเรื่องการส่งเอกสารอยู่ประมาณหน้าที่ 6 จะบอกว่าใครที่มีถิ่นพำนักอยู่ในรัฐใดให้ยื่นเอกสารที่ไหนค่ะ

       

      1. ถ้ายื่นเรื่องเปลี่ยนแบบนี้ โดยขอวีซ่านักเรียนไปแล้ว หลังจากเปลี่ยนเป็นนักเรียน วีซ่าท่องเที่ยวเราจะถูกยกเลิกไหมค่ะ

        1. ไม่ถูกยกเลิกค่ะน้อง Panida ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงวีซ่าท่องเที่ยวเป็นวีซ่านักเรียนใช้เวลานานประมาณสองเดือนหรือมากกว่าสองเดือนขึ้นไปแล้วแต่ case ของนักเรียนแต่ละคนค่ะ ดังนั้นถ้าน้องๆที่ไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าไปในสหรัฐฯเกิน 30 วันที่กฎหมายเข้าเมืองของวีซ่านักเรียนกำหนดไว้ ก็ไม่ควรใช้สิทธิ์นี้ค่ะ เพราะระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงสถานภาพวีซ่าจากประเภทหนึ่งไปเป็นอีกประเภทหนึ่งกินเวลานาน ทำให้เสี่ยงต่อการไม่ได้ลงทะเบียนเรียนในเทอมที่มหาวิทยาลัยตอบรับมาค่ะ

  7. อยากรบกวนถามพีว่า รุปถ่ายแบบนี้จะใช้ไดหรือ เปล่า ค่ะ

    1. น้อง Dizzy คะ น้องลืมแนบรูปถ่ายมาหรือเปล่าคะ ให้น้องเข้าไปดูเรื่องขนาดของรูปถ่ายได้ที่ http://travel.state.gov/visa/visaphotoreq/visaphotoreq_5334.html ค่ะ หรือ ลิงค์นี้ก็ได้ค่ะ http://travel.state.gov/visa/visaphotoreq/photocomptemplate/photocomptemplate_5330.html

  8. ขอบคุณพี่govisa อีกครั้งนะคะ ที่ให้คำแนะนำ/คำปรึกษากับพีชมาโดยตลอดคะ
    พีช

  9. พี่govisaคะ
    ขอเรียนสอบถามข้อมูล 2 ข้อนะคะ
    1)ใบเสร็จค่าธรรมเนียมสอบสัมภาษณ์visa ทางไปรษณีย์เค้าพิมพ์นามสกุลของพีชตกไป 1 ตัว แต่เค้าแก้ไขโดยการเขียนใหม่ด้วยปากกา และใช้ตรายางปั๊มชื่อเจ้าหน้าที่ลงไป >>> พีชสามารถนำเอกสารฉบับนี้ไปยื่นที่สถานฑูตได้หรือไม่คะ หรือต้องแก้ไขเพิ่มเติมอะไรหรือไม่คะ
    2)พีชขอเอกสารรับรองการทำงานของคุณแม่ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ ทางสำนักงานของคุณแม่สามารถออกให้ได้แต่เป็นภาษาไทย >>> จะสามารถใช้ยื่นรับรองที่สถานฑูตได้หรือไม่คะ(เนื่องจากไม่มีฉบับภาษาอังกฤษคะ)
    รบกวนพี่govisaช่วยแนะนำด้วยนะคะ
    ขอบคุณมากคะ
    พีช

    1. 1. คิดว่าได้ค่ะ
      2. ไม่เป็นไรค่ะ บอกเขาไปว่าหน่วยงานคุณแม่อยู่ต่างจังหวัด ออกเป้นภาษาอังกฤษไม่ค่อยถนัดค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *