ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 มาดูวิธีการปรับตัวของบางมหาวิทยาลียในประเทศสหรัฐอเมริกากัน University of Arizona ได้ขยายวิทยาเขตไปทั่วโลกใน 80 เมือง และ 37 ประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เลือกสถานที่เรียนตามความเหมาะสมของนักศึกษา และหลังจากเรียนจบ นักศึกษาจะได้รับปริญญาบัตรจากมหาวิทยาลัย University of Arizona ในประเทศสหรัฐอเมริกา ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องปกติ เพราะปัจจุบันมหาวิทยาลัยในประเทศชั้นนำหลายแห่ง ต่างก็พัฒนาความร่วมมือจัดหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรในต่างประเทศกันอยู่แล้ว แต่ University of Arizona ในสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2020 ให้ ผู้ให้บริการสถานที่ทำงานระดับโลก อย่าง WeWork ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ https://www.wildcat.arizona.edu/article/2020/09/n-ua-wework เข้ามาช่วยในการบริหารงานการขยายวิทยาเขตให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ใน Micro-campus หรือในแต่ละวิทยาเขต นักศึกษาจะได้รับประสบการณ์การเรียนในวิทยาลัยเต็มรูปแบบ ส่วนในด้านที่พัก นักศึกษาจะได้พักในหอพักที่ถูกสร้างขึ้นโดยเฉพาะ ซึ่งจะเน้นเป็นชุมชนที่ปลอดภัยทั้งเรื่องการเรียนและที่พักอาศัย และยังมีพื้นที่สำหรับการทำงานร่วมกัน (co-working space) เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะสร้างเครือข่ายการทำงานแบบมืออาชีพ นักศึกษาสามารถเรียนหลักสูตรออนไลน์ได้ทุกที่ หรือจะเลือกไปเรียนวิชาเอก (major)ในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ได้
ผู้ให้บริการสถานที่ทำงานระดับโลก หรือหน่วยงานที่มีชิ่อเรียกว่า WeWork เข้ามาช่วย University of Arizona บริหารการขยายเครือข่ายไปทั่วโลก พื้นที่ WeWork แต่ละแห่งได้รับการออกแบบโดยมีองค์ประกอบเฉพาะของแต่ละท้องถิ่น นักศึกษาสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยพร้อมอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกบริการครบวงจรที่ดีที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่มีปัญหาเริ่องการระบาดของโรค COVID-19 นี้ WeWork ได้ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อสร้างพื้นที่ที่สะอาดและปลอดภัยสำหรับชุมชน University of Arizona ได้มีมาตราการต่างๆออกมา ได้แก่ การปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน การเว้นระยะห่างแบบมืออาชีพ และการจัดหาอุปกรณ์ทำความสะอาด และฆ่าเชื้อโรคซึ่งเป็นการเน้นให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีของนักศึกษาในพื้นที่เหล่านั้น WeWork Location แต่ละจุดในแต่ละวิทยาเขตจะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง University of Arizona คณาจารย์ ศิษย์เก่า และบริษัทนายจ้างและที่ปรึกษา นักศึกษาในแต่ละวิทยาเขตสามารถเชื่อมต่อกับ University of Arizonz ที่เมือง Tucson ในประเทศสหรัฐอเมริกา และกับนักศึกษาต่างชาติคนอื่น ๆ ผ่าน Global Center Online ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าถึงชั้นเรียน แหล่งข้อมูลของ University of Arizona พร้อมเนื้อหาสด ตลอดจนการเข้าร่วมในชมรมกิจกรรม การให้คำปรึกษา และโอกาสในการสร้างเครือข่ายการทำงานได้ https://global.arizona.edu/uazglobal-wework-microcampus-partnership
University of Arizona เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่จัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ.1885 US News and World Report 2020 ได้จัดอันดับให้ University of Arizona อยู่ในอันดับที่ 11 ของการสอนในระดับปริญญาตรีแบบออนไลน์ https://everywhere.arizona.edu/pathways-programs-faq
University of Arizona เริ่มทำความตกลงกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรตั้งแต่ปี 2017 https://news.arizona.edu/story/ua-launches-visionary-global-network ม่ีมหาวิทยาลัยที่จักเป็น Micro-campus 11 แห่งใน 10 ประเทศ ภายในระยะเวลา 4-5 ปี University of Arizona ได้มี Micro-campuses รวมกันแล้วถึง 650 แห่ง
หลายคนอาจสงสัยว่า Micro-Campus คืออะไร Micro-campus คือ การที่มหาวิทยาลัยในประเทศหนึ่ง จัดหลักสูตรการสอนร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรในอีกประเทศหนึ่ง โดยใช้สถานที่เรียนเป็นของมหาวิทยาลัยพันธมิตร ทั้งนี้เท่ากับเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการสร้างอาคารเรียนในประเทศที่เป็นพันธมิตร และค่าเล่าเรียนก็จะไม่แพงเท่ากับค่าเล่าเรียนในประเทศที่เป็น Host Micro-campus ถือได้ว่าเป็น International Branch Campus หรือ Global Satellite รูปแบบหนึ่ง หรือเป็น Transnational Education รูปแบบหนึ่งก็ว่าได้
คำว่า International Branch Campus คือ วิทยาเขตที่ตั้งอยู่ระหว่างประเทศของสถาบันการศึกษาที่เป็นพันธมิตรซึ่งอาจจะมี 1 แห่งหรือมากกว่า 1 แห่ง โดยมีชื่อเรียกสถาบันตามชื่อสถาบันที่เป็น Host หรือเป็นสถาบันผู้ริเริ่มตั้งวิทยาเขตในประเทศนั้น โดยจะเปิดสอนทั้งหลักสูตรระดับปริญญาตรี หรืออาจสูงกว่าระดับปริญญาตรี นักศุกษาที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาบัตรจากสถาบันพันธมิตรแห่งหนึ่ง หรือจากทั้งสถาบันที่เป็นทั้งพันธมิตรและสถาบันที่เป็น Host ก็ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างสถาบันที่เป็น Host และสถาบันที่เป็นพันธมิตร อาจกล่าวได้ว่า International Branch Campus เป็นรูปแบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาประเภทหนึ่ง International Branch Campus เกิดขึ้นในสมัยอาณานิคม เมื่อมิชชั่นนารีโปรเตสแตนท์ชาวอเมริกันได้นำโมเดลของวิทยาลัยแบบอเมริกันเข้าไปในประเทศอียิปต์ ตุรกี เลบานอน ทำให้เกิด American University of Beirut ขึ้นในปีค.ศ. 1866 ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 International Branch Campus ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้การบริการแก่ทหารและพลเรือนที่ไปอยู่ตามประเทศต่างๆ ในปี 1955 John Hopkins University ได้เปิด John Hopkins University SAIS Europe ขึ้นที่เมือง Bologna ประเทศอิตาลี นับได้ว่า เป็นสถาบันเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่ยังคงเปิดสอนอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ International Branch Campus ของมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเอเซียและตะวันออกกลาง ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศกาตาร์ ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น
ส่วนนิยามคำว่า Transnational Education มีความหมายแทบจะไม่ต่างกันเลยกับ International Branch Campus Transnational Education คือโครงการที่เกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยที่เป็น Host หรือ เป็นเจ้าของหลักสูตรกับอีกมหาวิทยาลัยหนึ่งในต่างประเทศที่เป็นพันธมิตร ได้ตกลงเปิดหลักสูตรการเรียนที่มีคุณภาพขึ้นในประเทศพันธมิตร ส่วนปริญญาที่นักศึกษาได้รับอาจจะเป็นปริญญาจากมหาวิทยาลัยที่เป็น Host เพียงแห่งเดียว หรือเป็นปริญญาร่วมที่เกิดจากความร่วมมือของทั้ง 2 มหาวิทยาลัย ดังตัวอย่าง เช่น ข่าวการเปิดตัวหลักสูตรร่วมและหลักสูตรคู่ขนาน อันเกิดจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทยกับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร เป็นต้น เป็นที่สังเกตว่า ทางฝั่งอังกฤษมักจะใช้คำว่า Transnational Education ในขณะที่ทางสหรัฐอเมริกานิยมใช้คำว่า International Branch Campus ( https://www.moe.go.th/websm/2017/aug/446.html)
ทำไม University of Arizona ต้องมี Micro-campus เหตุผลที่สำคัญเลยคือ เพื่อให้นักศึกษาต่างชาติเข้าถึงการศึกษาระดับชั้นนำของโลกได้ ด้วยการลงทุนค่าใช้จ่ายทางการศึกษาที่ไม่แพงมาก จากหนังสิอพิมพ์ The Evolllution ประจำวันที่ 23 พฤษภาคม 2017 ได้สรุปการสร้างโมเดล Micro-campus ของ University of Arizona ไว้ว่า
- ใช้วิทยาเขตร่วมกัน: มหาวิทยาลัยพันธมิตรอนุญาตให้ใช้สถนที่และห้องเรียนของมหาวิทยาลัยพันธมิตร และจัดเตรียมพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเรียนตามหลักสูตรของ University of Arizona ทำให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ และทำให้ University of Arizona และมหาวืทบาลัยพันธมิตรสามารถมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอการเรียนการสอนที่มีคุณภาพสูง
- ใช้นักศึกษาร่วมกัน: นักศึกษายังคงรักษาสถานะการเป็นนักศึกษาในมหาวิทยาลัยพันธมิตรอยู่ในขณะที่ลงทะเบียนในหลักสูตรของ University of Arizona ที่เปิดสอนใน Micro-campus ของมหาวิทยาลัยพันธมิตร
- การเรียนการสอนแบบร่วมมือกัน: ใช้ประโยชน์จากการเรียนการสอนที่เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีล่าสุด หลักสูตรต่างๆได้รับการสอนร่วมกันในห้องเรียนแบบพลิกกลับด้าน ( Flipped Classroom) ซึ่งจัดทำโดยศาสตราจารย์ของ University of Arizona เอง และศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยพันธมิตร หรือเฉพาะจากคณาจารย์ของ University of Arizona หรือเฉพาะจากคณาจารย์ของมหาวิทยาัยพันธมิตร (ศึกษาเพิ่มเติมเรื่องห้องเรียนแบบกลับด้านคืออะไร http://personnel.obec.go.th/hris-th/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-flipped-classroom/
- ค่าเล่าเรียนราคาไม่แพง : ค่าเล่าเรียนของ University of Arizona อิงตามอัตราตลาดในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการศึกษา และความสามารถในการจ่ายเงิน และแบ่งปันกับมหาวิทยาลัยพันธมิตร
- เกิดความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายระหว่าง campus รวมทั้ง โครงการ Study Abroad ของนักศึกษาอเมริกัน : นักศึกษามหาวิทยาลัยพันธมิตรมีทางเลือก คือไม่จำเป็นต้องเรียนที่วิทยาเขตหลักของ University of Arizona ใน Tuscon หรือที่ Micro-campus ใด ๆ ภายในเครือข่าย Micro-campus ทั่วโลก และนักศึกษาในวิทยาเขตหลักของ University of Arizona ยังมีโอกาสเรียนที่จะไปเรียนที่ Micro-campus ได้ทุกแห่ง
- ความร่วมมือด้านการวิจัย : Micro-campus จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับความร่วมมือของคณาจารย์ รวมถึงการทำวิจัยร่วมและ ข้อเสนอการได้รับทุน
- ปริญญาบัตรร่วมกัน : นักศึกษาจะได้รับปริญญาทั้งจาก University of Arizona และปริญญาจากมหาวิทยาลัยพันธมิตร ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทที่มีให้เลือกในหลายสาขาวิชา
Copyright © 2010-2020 GoVisaEdu All rights reserved