เรียนต่อทันตแพทยศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา

การเรียนต่อด้านทันตแพทยศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับการสมัครเรียนต่อแพทยศาสตร์ หรือกฏหมาย กล่าวคือ นักเรียนที่เรียนจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายยังไม่สามารถสมัครเรียนต่อวิชาทันตแพทย์ในมหาวิทยาลัยได้เลยทันที นักศึกษาจะต้องเรียนจบปริญญาตรีด้วยระยะเวลา 3 หรือ 4 ปีของสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งมาก่อน และสมัครเรียนต่อหลักสูตร D.D.S หรือ D.M.D. เพิ่มอีก 4 ปี ผู้สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อหลักสูตรทั้งระยะสั้น ระยะยาว และปริญญา ของสถาบันที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานคณะกรรมการรับรองทันตกรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ (Commission on Dental Accreditation-CODA) https://coda.ada.org/en/find-a-program/search-dental-programs#t=us&sort=%40codastatecitysort%20ascending อนึ่ง คำว่า D.D.S. ย่อมาจาก Doctor of Dental Surgery ส่วนคำว่า D.M.D. ย่อมาจาก Doctor of Medicine in Dentistry / Doctor of Dental Medicine. ผู้สำเร็จการศึกษาระดับ D.D.S. หรือ D.M.D. สามารถทำการสอบ Board Examination ของรัฐหรือระดับภูมิภาค เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับใบอนุญาตและการปฏิบัติทางทันตกรรมได้ในประเทศสหรัฐอเมริกา

นักศึกษาที่เรียนจบหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์จากประเทศไทยแล้ว มีทางเลือก 2 ทางคือ

  1. สมัครเรียนต่อหลักสูตรปริญญาโทและหรือปริญญาเอกด้านทันตแพทย์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลักสูตรทั้งสองนี้มุ่งเน้นไปทางด้านการทำวิจัยและการสอน
  2. นักศึกษาเลือกสมัครเรียนต่อในระดับ D.D.S., D.M.D.ของประเทศสหรัฐฯ และหรือหลักสูตรที่เหนือขึ้นไป โดยจะยื่นใบสมัครมหาวิทยาลัย ผลสอบภาษาอังกฤษ TOEFL ผลสอบ GRE ผลสอบ DAT ( https://www.ada.org/education/testing/exams/dental-admission-test-dat) ผ่านหน่วยงาน American Dental Education Association https://www.adea.org/GoDental/ADEAAADSASApplicationUpdates/

วิธีการสมัคร เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเอง เช่น SUNY-University at Buffalo จะมีคำอธิบายวิธีการสมัครเข้าเรียนต่อ D.D.S. หรือ D.M.D. ว่า ต้องติดต่อผ่าน ADEA เท่านั้น https://dental.buffalo.edu/education/dds-program/dds-program/doctor-of-dental-surgery–dds-/admissions.html

ส่วนนักศึกษาที่ต้องการสมัครไปทำเทรนนิ่ง และศึกษาเพิ่มเติมในระดับ Advanced Standing Program เพื่อนำไปสู่การได้รับคุณวุฒิ D.D.S.หรือ D.M.D. จากมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาในระยะเวลาที่สั้นกว่าปกติ ก็ต้องยื่นใบสมัคร ผลสอบภาษาอังกฤษ และจดหมาย Recommendation จากอาจารย์ ฯลฯ นักศึกษาสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของสมาคมทันตแพทย์สหรัฐอเมริกา https://www.adea.org/CAAPIDapp/

ADEA CAAPID ไม่ต้องมีผลการทดสอบการตรวจทางทันตกรรมของคณะกรรมการแห่งชาติ National Board Dental Examination (NBDE) แต่อาจจะมีบ้างบางหลักสูตรที่มีข้อกำหนดของ NBDE ซึ่งจำเป็นต้องมีการสัมภาษณ์และการสอบทางเทคนิค https://www.usnews.com/education/best-graduate-schools/articles/2018-05-30/how-foreign-dentists-can-get-us-degrees-training

สถานศึกษาที่เป็นมหาวิทยาลัยและเปิดสอนหลักสูตรทันตแพทยศาสตร์ในสหรัฐอเมริกามีทั้งหมด 66 แห่ง ไม่นับมหาวิทยาลัยในเปอร์โตริโก และมหาวิทยาลัยในแคนาดา ศึกษารายชื่อมหาวิทยาลัยพร้อมวันปิดรับสมัครได้จากเว็บไซต์ https://www.adea.org/GoDental/AADSAS-SchoolSpecificDeadlines/

การส่งสมัครมหาวิทยาลัยเพื่อเรียนต่อด้านทันตแพทย์ในสหรัฐฯ อาจต้องส่งสมัครหลายแห่ง ด้วยวิชาทันตแพทย์เป็นอีกวิชาหนึ่งที่มีการแข่งขันสูง และผู้สมัครต้องมีความพร้อมทางด้านการเงิน เพราะค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อทันตแพทย์ในสหรัฐฯค่อนข้างสูง ประมาณ 60,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ขึ้นไป และต้องใช้เวลานานในการเรียน เช่น ถ้านับตั้งแต่เรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายและต้องการจะเรียนเพื่อให้ได้ D.D.S. หรือ D.M.D จะต้องใช้ระยะเวลานานประมาณ 8 ปีขึ้นไป ประกอบกับการศึกษาต่อทันตแพทย์มักไม่ค่อยมีทุนการศึกษาให้มากนัก ยกตัวอย่างค่าใช้จ่าย University of Southern California https://dentistry.usc.edu/cost-of-attendance-test/

ค่าใช้จ่ายของ Harvard university https://hsdm.harvard.edu/files/dental/files/dmd_budget_2022-23.pdf?m=1647545819

อนึ่ง จะเห็นได้ว่า ฝรั่งให้คำอธิบายความหมายของนักเรียนต่างชาติในกรณีการรับเข้าเรียนทันตแพทยศาสตร์ไว้ 2 นัยยะ ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาการตอบรับเข้าเรียนต่อทันตแพทย์ที่แตกต่างกันตามนโยบายของมหาวิทยาลัยนั้นๆ คือ

  • International Student หมายถึงผู้ที่กำลังจะสำเร็จการศึกษาหรือสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่น และมีวัตถุประสงค์จะเข้าเรียนต่อวิชาทันตแพทย์ในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่านักเรียน
  • Foreign-educated Dentist หมาย ผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้วและได้รับปริญญาทันตกรรมจากมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา คนกลุ่มนี้จะต้องเรียนรู้ว่า รัฐส่วนใหญ่ในอเมริกาต้องการปริญญาทันตแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดย American Dental Association Commission on Dental Accreditation (CODA) ดังนั้นคนเหล่านี้ ต้องสมัครเรียน D.D.S. หรือ D.M.D. ที่ได้รับการรับรองจาก CODA โดยเข้าร่วมศึกษา Advanced Standing Program ในสหรัฐอเมริกา Advanced Standing Program จะช่วยให้บุคคลเหล่านี้สามารถเรียนจบ D.D.S. หรือ D.M.D. ภายในระยะเวลา 2-3 ปีเท่านั้น

รายชื่อวิชาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสายทันตแพทยศาสตร์ ได้แก่

1. ทันตกรรมจัดฟัน (Endodontics)ทันตแพทย์จัดรักษาสภาพฟันที่ขยายไปถึงรากฟัน ผู้ศึกษาด้านนี้จะประเมิน วินิจฉัย และรักษาโรค รวมทั้งการบาดเจ็บที่ส่วนภายในของฟัน

2. ทันตกรรมทั่วไป (General Dentistry) ทันตแพทย์ทั่วไปมักจะทำงานในสำนักงานทันตกรรมว่าด้วยสภาพแวดล้อมด้านสาธารณสุข ตรวจร่างกายและให้ความรู้ผู้ป่วยเกี่ยวกับการดูแลทันตกรรมที่เหมาะสม แต่บางครั้งบุคคลเหล่านี้ก็อาจจะทำการผ่าตัดด้วย

3. จัดฟัน (Orthodontics) ทันตแพทย์จัดฟันมุ่งเน้นไปที่การจัดฟัน ทันตแพทย์จัดฟันมักจะทำงานร่วมกับเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ในการวินิจฉัยและรักษาฟันที่เรียงไม่ตรงแนว

4. พยาธิวิทยาช่องปากและใบหน้า(Oral and Maxillofacial Pathology) นักพยาธิวิทยาช่องปากและใบหน้าขากรรไกรจะเน้นไปที่การวินิจฉัยและการรักษาโรคในช่องปากเป็นหลัก โดยทันตแพทย์จะทำงานร่วมกับผู้ป่วยทางทันตกรรมที่มีฟันผุบ่อย โรคปริทันต์ การบาดเจ็บทางทันตกรรม หรือปากแหว่ง

5. ทันตกรรมเด็ก (Pediatric) กุมารทันตแพทย์จะเชี่ยวชาญด้านการศึกษาและการรักษาสภาพทางทันตกรรมที่มีผลกระทบต่อผู้ป่วยอายุน้อย เด็กและวัยรุ่นที่มีปัญหาทางทันตกรรมที่ไม่เหมือนใคร

6. รังสีวิทยาช่องปากและใบหน้า(Oral and Maxillofacial Radiology) นักรังสีวิทยาช่องปากและใบหน้าขากรรไกรมุ่งเน้นไปที่การประเมิน และการตีความภาพการวินิจฉัยเป็นหลัก นักรังสีวิทยาในช่องปากมักจะช่วยเหลือผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมคนอื่นๆ ในการประเมินผลลัพธ์ของการเอ็กซ์เรย์

7. ศัลยกรรมช่องปากและใบหน้า (Oral and Maxillofacial Sugery) ศัลยแพทย์ช่องปากมุ่งเน้นไปที่ด้านศัลยกรรมทันตกรรมเป็นหลัก อาจจะทำการผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหายหรือแก้ไขแนวกรามที่ไม่ตรงแนว

8. ปริทันตวิทยา (Periodontry) ปริทันต์มุ่งเน้นไปที่โรคปริทันต์เป็นหลัก ทันตแพทย์กลุ่มนี้จะใช้เครื่องมือวินิจฉัย เพื่อกำหนดขอบเขตของโรคปริทันต์ และพัฒนาแผนการรักษาเพื่อแก้ไขปัญหา

9. ทันตกรรมประดิษฐ์ (Prostodontics )ทันตแพทย์จัดฟัน สร้างครอบฟันและรากฟันเทียม และมุ่งเน้นที่การปรับปรุงความงามโดยรวมของฟัน นักศึกษาทันตแพทย์อาจเลือกที่จะเชี่ยวชาญด้านวิสัญญีวิทยาทางทันตกรรม ยาในช่องปาก หรืออาการปวดบริเวณใบหน้า

Copyright © 2010-2022 GoVisaEdu All rights reserved

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *