เรียนต่อกฎหมายเพื่อทำงานกฎหมายในสหราชอาณาจักร

การเลือกเรียนต่อวิชานิติศาสตร์หรือกฎหมายในสหราชอาณาจักรเป็นอีกหนึ่งวิชาที่มีการแข่งขันสูง เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผู้เรียนจะต้องมีผลคะแนน A-levels อย่างน้อย 3 วิชาที่อยู่ในระดับ ABB,BBB หรือสูงกว่านี้ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่ต้องการสมัครเรียน ถ้าเป็น International Baccalaureate หรือ IB ต้องได้คะแนนมากกว่า 35 คะแนนขึ้นไป สำหรับความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ IELTS ทั่วไปควรทำได้คือ 7.0 โดยรวมและคะแนนแต่ละด้านไม่ต่ำกว่า 6.5 ในส่วนใดส่วนหนึ่ง

ในแต่ละคณะนิติศาสตร์หรือโรงเรียนสอนกฎหมายในสหราชอาณาจักร จะมีวุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายต่างๆดังนี้

  • นิติศาสตรบัณฑิต (LLB) คือปริญญาตรีด้านกฎหมาย
  • Graduate LLB (มักเปิดสอนในรูปแบบ Fast-track LLB ที่นำไปสู่การศึกษาระดับสูงกว่าปริญญาตรี) หมายถึงการศึกษาของผู้สำเร็จการศึกษาที่ไม่ใช่นักกฎหมายในเวลาเพียง 2 ปี แทนที่จะเป็น 3 ปีปกติด้วยโปรแกรม Graduate LLB เช่น หลักสูตรที่ City University https://www.city.ac.uk/prospective-students/courses/postgraduate/conversion-llb
  • ประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมาย (Graduate Diploma in Law-GDL) GDL เป็นหลักสูตร 1 ปีซึ่งผู้สำเร็จการศึกษาที่ไม่ใช่นักกฎหมายที่มีเป้าหมายในการประกอบอาชีพในฐานะทนายความจะต้องเรียนก่อนที่จะศึกษาหลักสูตรการปฏิบัติตามกฎหมายภาคบังคับ (LPC) พูดง่ายๆคือการ ‘แปลง’ ปริญญาที่ไม่ใช่กฎหมายให้เป็นปริญญาทางกฎหมายที่มีคุณสมบัติ ด้วยเหตุนี้บางครั้งจึงเรียกว่า ‘หลักสูตรการแปลง‘ ก่อนหน้านี้เรียกว่า CPE (Common Professional Exam) นายจ้างและโรงเรียนกฎหมายบางแห่งอาจยังคงใช้คำนั้นควบคู่ไปกับ PGDL (Postgraduate Diploma in Law) https://www.chambersstudent.co.uk/law-schools/graduate-diploma-in-law/what-is-the-gdl เช่น หลักสูตร PGDL ของ The University of Law The University of Law ได้ให้คำอธิบายวุฒิการศึกษา PGDL ไว้ว่า PGDL ของเราเป็นหลักสูตรการแปลงกฎหมายที่สอนให้นักศึกษาคิดเหมือนนักกฎหมายและเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นจริงของชีวิตในการปฏิบัติตามกฎหมาย หลักสูตรนี้มาแทนที่ประกาศนียบัตรบัณฑิตด้านกฎหมาย (GDL) ของเรา และเป็นรากฐานสำหรับ Pathways สู่การปฏิบัติสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาที่ไม่ใช่นักกฎหมายที่ต้องการที่จะก้าวเข้าสู่หลักสูตรเตรียมสอบ SQE1 และการปฏิบัติตามกฎหมาย LLM ของเรา (SQE1&2) เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นทนายความหรือ Bar Practice Course (BPC) เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นทนายความในสหราชอาณาจักร แต่ถ้าต้องการกลับมาทำงานกฎหมายในประเทศไทย ให้ศึกษาดูว่า หลักสูตรทางกฎหมายในสหราชอาณาจักรมีเปิดสอนวิชาที่เป็นวิชาบังคับในเมืองไทยด้วยหรือไม่ เช่น ผู้ต้องการสอบเป็นผู้พิพากษาในสนามเล็กต้องเรียนวิชาอะไรหรือเรียนหลักสูตรอะไรบ้าง เป็นต้น หรือการเรียนปริญญาในสหราชอาณาจักรพร้อมกับการมีโอกาสได้ฝึกงานในสหราชอาณาจักร จะทำให้เรามีโอกาสในการได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานในบริษัทกฎหมายใหญ่ๆที่มีชื่อเสียงของประเทศไทยด้วยหรือไม่
  • หลักสูตรการปฏิบัติตามกฎหมาย (LPC) และหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (LLM) หลักสูตร LPC เป็นหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรีและเป็นขั้นตอนการศึกษาขั้นสุดท้ายที่จะนำไปสู่การเป็นทนายความในอังกฤษ เวลส์ และออสเตรเลีย (ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า “การฝึกอบรมด้านกฎหมายเชิงปฏิบัติ” หรือ “PLT”) หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อเป็นสะพานเชื่อมระหว่างการศึกษาเชิงวิชาการและการฝึกอบรมในสำนักงานกฎหมาย เป็นหลักสูตร 1 ปี เต็มเวลา (หรือ 2 ปี นอกเวลา) และค่าเล่าเรียนจะอยู่ระหว่าง 8,000-17,300 ปอนด์ต่อปี นักเรียนส่วนน้อยอาจมีค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพบางส่วนที่นายจ้างในอนาคตจ่ายให้ภายใต้สัญญาการฝึกอบรม โดยทั่วไปหลักสูตรนี้จะดำเนินการหลังจากสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายแล้ว แต่คนกลุ่มน้อยจำนวนมากจะเรียนหลักสูตรนี้หลังจากเรียนวิชาอื่นในมหาวิทยาลัยและเรียนหลักสูตรการแปลงสภาพที่เรียกว่า Graduate Diploma in Law (GDL/CPE) LPC ได้รับการควบคุมผ่านสมาคมกฎหมายแห่งอังกฤษและเวลส์ และเข้ามาแทนที่ Law Society’s Final Examination (LSF) ในปี 1993 เช่นเดียวกับ GDL/CPE LPC สามารถนำไปใช้กับ Central Applications Board ได้ เนื้อหาหลักสูตรสามารถแบ่งกว้างๆ ออกเป็น 3 ขั้นตอนของการเรียนรู้ คือ 1.โมดูลภาคบังคับ “วิชาหลัก” 2. โมดูล “วิชาเลือก” และ 3. ทักษะการปฏิบัติ ในส่วนแรกและเป็นส่วนที่ยาวที่สุดของหลักสูตร คือ หลักสูตรภาคบังคับโดยทั่วไป ได้แก่ การฟ้องร้องคดีอาญา กฎหมายและแนวปฏิบัติทางธุรกิจ กฎหมายและแนวปฏิบัติด้านทรัพย์สิน และการดำเนินคดีทางแพ่ง ในส่วนที่สองจะสั้นกว่า นักศึกษาจะเลือกโมดูล “วิชาเลือก” จากรายการที่เลือกโดยสถาบันที่เปิดสอน ในกรณีนักศึกษาต่างชาติที่จบปริญญาตรีด้านกฎหมายในประเทศของตนเองแล้ว อาจสมัครเข้าเรียนหลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิตหรือ LLM แล้วกลับไปทำงานด้านกฎหมายในประเทศของตนเอง แต่ถ้าสนใจที่จะทำงานเป็นทนายความในสหราชอาณาจักรก็ต้องศึกษาหลักสูตรปฏิบัติตามกฎหมาย LPC และอื่นๆตามเงื่อนไขของสหราชอาณาจักร
  • โครงการโอนทนายความที่ผ่านการรับรอง (QLTS) QLTS ถูกยกเลิกและแทนที่โดย Solicitors Qualifying Examination (SQE)ทนายความที่เป็นเป็นชาวต่างชาติจะต้องเข้ารับการประเมิน SQE โครงการโอนทนายความที่ผ่านการรับรอง (QLTS) ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ทนายความจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมีคุณสมบัติเป็นทนายความในอังกฤษและเวลส์ โครงการนี้บริหารงานโดย Solicitors Regulation Authority (SRA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลของสมาคมกฎหมายแห่งอังกฤษและเวลส์ https://www.sra.org.uk/
  • หลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพบาร์ (BPTC) หลักสูตรการฝึกอบรมวิชาชีพบาร์หรือ Bar Professional Training Course- BPTC เป็นหลักสูตรระดับสูงกว่าปริญญาตรีที่เปิดโอกาสให้ผู้สำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายได้รับการเสนอชื่อและปฏิบัติงานในฐานะทนายความในอังกฤษและเวลส์ได้ สถาบัน 8 แห่งที่ดำเนินการจัดหลักสูตร BPTC ได้แก่ BPP Law School, Cardiff University, The City Law school, Manchester Metropolitan University, Northumbria University, Nottingham Trent University, The University of Law และ University of the West of England พร้อมด้วย Inns of Court อีก 4 แห่งคือ The Honourable Society of Gray’s Inn ,The Honourable Society of the Inner Temple, The Honourable Society of Lincoln’s Inn และ The Honourable Society of the Middle Temple ซึ่งทั้ง 12 สถาบันรวมกันว่า Bar School จนถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 หลักสูตรนี้ก็เป็นที่รู้จักในชื่อ Bar Vocational Course หรือ BVC หลักสูตรบาร์จะครอบคลุมวิชาบังคับหลายวิชา เช่น การสนับสนุน การดำเนินคดีและพยานหลักฐานทางแพ่ง รวมถึงการระงับข้อพิพาท ทักษะการประชุม การดำเนินคดีอาญา หลักฐาน และการพิพากษาลงโทษ ร่าง การวิจัยทางกฎหมาย การเขียนความคิดเห็น จรรยาบรรณวิชาชีพ
  • นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องง่ายที่จะผสมผสานกฎหมายเข้ากับวิชาอื่นๆ ในสหราชอาณาจักร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ BA หรือ BSc หากคุณเลือกปริญญาด้านกฎหมายโดยเฉพาะ คุณจะครอบคลุมโมดูลหลักเจ็ดโมดูลเดียวกันตั้งแต่แรกเพื่อให้แน่ใจว่า คุณมีความเข้าใจพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเส้นทางอาชีพใดๆ จากนั้นคุณจะสามารถเชี่ยวชาญได้เช่น โดยเลือกโมดูลที่คุณสนใจมากที่สุด โดยปกติแล้วมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรกฎหมายจะ ให้ทางเลือกแก่คุณในการเชี่ยวชาญในหนึ่งใน 7 สาขาหลักของกฎหมาย ได้แก่ กฎหมายอาญา กฎหมายบริษัท กฎหมายการธนาคาร กฎหมายการก่อสร้าง กฎหมายพาณิชย์ กฎหมายรัฐธรรมนูญ และ กฎหมายสัญญา

ในสหราชอาณาจักรทนายความภาคปฏิบัติ (Practising Lawyer) จะมี 3 รูปแบบได้แก่

  • ทนายความที่ปรึกษา (Solicitors) คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายที่ทำงานนอกศาลและติดต่อประสานงานกับลูกค้าโดยตรงเพื่อให้คำแนะนำทางกฎหมาย Solicitor ดำเนินการประชุมเบื้องต้นกับลูกค้าและให้คำแนะนำเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะของพวกเขา Solicitors มักจะทำงานด้านกฎหมายอยู่ในสำนักงานเอกชนหรือในแผนกกฎหมายขององค์กรภาครัฐหรือบริษัทเอกชน เช่น การดำเนินธุรกรรมของบริษัท การโอนทรัพย์สิน การฟ้องร้องดำเนินคดี อาจไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางก็ได้ กรณีการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางซึ่งจะมีประมาณ 14 ด้านได้แก่ Banking and debt Finance Law, Charity Law, Civil Litigation dispute resolution law, Commercial law, Construction law, Consumer law, Corporate law, Criminal law, Employment law, Environmental law, Family law, Housing law, Human Rights law, Immigration and Asylum Law, Insurance law, Intellectual Property Law, Personal injury and clinical negligence law, Private client law, Property law, Restructuring and insolvency law, Shipping law, Social welfare law และ Tax law สำหรับผู้ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางดังกล่าวจะมีสิทธิว่าความเฉพาะในศาลล่าง ยกเว้นว่ามีคุณวุฒิเพิ่มเติมที่มีสิทธิว่าความในศาลสูงได้
  • ทนายความ (Barristers/advocates) หรือเรียกอีกอย่างว่า counsel เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีสิทธิว่าความในทุกศาล ในอังกฤษและเวลส์ Barristers เป็นตัวแทนของบุคคลหรือองค์กรในศาล ดำเนินการวิจัยประเด็นทางกฎหมาย และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเกี่ยวกับคดีของพวกเขา บ่อยครั้งที่ Barristers จะประกอบอาชีพอิสระ
  • เจ้าหน้าที่ฝ่านกฎหมาย (Legal executives) ทำหน้าที่คล้ายกับทนายความที่ปรึกษา แต่ส่วนใหญ่จะเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เช่น การโอนทรัพย์สิน การดำเนินคดีหรือพินัยกรรมในอังกฤษและเวลส์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายจะทำงานให้กับทนายความที่ปรึกษาหรือทำงานในแผนกกฎหมายขององค์กรภาครัฐหรือเอกชน

สรุปขั้นตอนการเรียนนิติศาสตร์เพื่อต้องการทำงานทางกฎหมายในอังกฤษและเวลส์

  1. ต้องเรียนในระดับปริญญาตรี ซึ่งใช้เวลาเรียนสามปี (หรือสี่ปีในสกอตแลนด์) โดยสามารถเลือกเรียน LLB หรือ BA/BSc ได้
  2. หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญานิติศาสตร์ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดหรือคุณวุฒิอื่นๆ ที่ได้รับการยอมรับ และมีวัตถุประสงค์เพื่อลดช่องว่างระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ จะต้องเรียนรู้ทักษะการปฏิบัติที่จำเป็นสำหรับอาชีพทนายความ LPC คือ การฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อเป็นทนายความที่มีคุณสมบัติ การเรียนหลักสูตร LPC สามารถเรียนได้ทั้งแบบเต็มเวลาหรือนอกเวลา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือนักศึกษาคนใดก็ตามที่เริ่มต้นการศึกษาระดับปริญญาทางกฎหมายตั้งแต่ภาคการศึกษาเดือนกันยายน 2021 เป็นต้นไปจะต้องเรียนหลักสูตร Solicitors Qualifying Examination (SQE) ซึ่งจะมาแทนที่ LPC (และ Graduate Diploma in Law (GDL)) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การประเมิน SQE ซึ่งประกอบด้วย 2 ส่วน คือ SQE1 ทดสอบความรู้ทางกฎหมายผ่านการทดสอบแบบปรนัย SQE2 ทดสอบทักษะการปฏิบัติผ่านการสอบปากเปล่าและข้อเขียน  แต่ผู้ที่เริ่มต้นลงทะเบียนเรียนปริญญานิติศาสตร์ ต่อด้วย GDL หรือ LPC แล้วก่อนหน้าภาคการศึกษาเดือนกันยายน 2021 จะยังคงใช้เส้นทางเดิมได้จนถึงปี 2032 https://www.sra.org.uk/become-solicitor/sqe/
  3. จะต้องหาประสบการณ์เชิงปฏิบัติกับสัญญาการฝึกอบรมด้านกฎหมายเป็นเวลาสองปีในสำนักงานกฎหมายก่อนที่จะเป็นทนายความที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ในช่วงเวลานี้สำนักงานกฎหมายของผู้ที่ต้องการทำงานเป็นนักกฎหมายในอังกฤษและเวลส์จะเป็นผู้จ่ายค่าการฝึกอบรมเฉพาะทางให้

เนื่องจากสหราชอาณาจักรประกอบด้วย อังกฤษ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ และสก็อตแลนด์ ดังนั้น ถ้าต้องการทำงานทางกฎหมายในไอร์แลนด์เหนือ ก็ต้องวางแผนและศึกษาก่อนล่วงหน้าที่จะลงทะเบียนเรียนว่า จะต้องลงเรียนหลักสูตรใดบ้างและจะใช้เวลาเรียนนานเท่าไร โดยทั่วไปในไอร์แลนด์เหนือ เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็น Solicitor นักศึกษาจะต้องสำเร็จการฝึกอบรมปริญญาโทหลังจากได้รับ QLD และสำเร็จการศึกษาระดับ Postgraduate diploma ในสาขาการศึกษากฎหมายวิชาชีพที่สถาบันการศึกษากฎหมายวิชาชีพ (IPLS) แต่ถ้าต้องการมีคุณสมบัติเป็น Barrister นักศึกษาจะต้องสำเร็จการศึกษา Bar Postgraduate Diploma in Professional Legal Studies ที่ IPLS และผ่านการเรียน Pupillage 12 เดือนพร้อมปริญญาโทที่มีสิทธิ์ แต่ในสาธารณรัฐไอร์แลนด์ เพื่อที่จะมีคุณสมบัติเป็น Barrister ได้ นักศึกษาจะต้องสำเร็จปริญญาเนติบัณฑิตที่ King’s Inns ผ่านการสอบคัดเลือก และสำเร็จการศึกษา Pupillage 1 ปีกับผู้ประกอบวิชาชีพในกรุงดับลิน เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็น Solicitor นักศึกษาจะต้องผ่านการสอบ Final Examination 2 ส่วน – ส่วนแรก (FE-1) ได้รับการอบรมการฝึกอบรม 2 ปี และสำเร็จหลักสูตรวิชาชีพ (PPC I และ PPC II) https://www.qub.ac.uk/schools/SchoolofLaw/study/pathways-to-qualification/

ในขณะที่ในอังกฤษและเวลส์ เพื่อให้มีคุณสมบัติเป็น Solicitor นักศึกษาจะต้องผ่านขั้นตอนของ Solicitors Qualifying Examination (SQE) และต้องผ่านประสบการณ์การทำงานที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดเป็นเวลา 2 ปี แต่ถ้าต้องการมีคุณสมบัติเป็น Barrister นักศึกษาจะต้องสำเร็จหลักสูตรการฝึกอบรมบาร์ เป็นสมาชิกของ Inn of Court ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมที่มีคุณสมบัติหลายๆแห่ง และสำเร็จการศึกษา Pupillage 12 เดือน

ุุถ้านักศึกษามีเวลา สามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจากมหาวิทยาลัยในไอร์แลนด์ที่มีเปิดสอนหลักสูตรกฎหมายได้ เช่น จากหน้าเว็บไซต์ University College Cork Ireland จะมีคำอธิบายเกี่ยวกับหลักสูตรทางกฎหมาย และการจะก้าวไปสู่การทำงานด้านกฎหมายในไอร์แลนด์เหนือ https://www.ucc.ie/en/law/careers/how-to-become-a-solicitor-in-ireland/

ถ้าต้องการทำงานทางกฎหมายในสก็อตแลนด์ Advocate ในสกอตแลนด์ (บางครั้งเรียกว่าที่ปรึกษา Counsel) มีบทบาทคล้าย ๆ กับ Barrister ในอังกฤษและเวลส์ แต่มีกระบวนการฝึกอบรมที่ค่อนข้างแตกต่างออกไป ศึกษาเพื่มเติมจากบรรดาเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยในสก็อตแลนด์ที่มีเปิดสอนหลักสูตรทางกฎหมาย เช่น หลักสูตรของมหาวิทยาลัย The University of Edinburgh https://www.ed.ac.uk/careers/students/undergraduates/discover-what-s-out-there/find-out-about-types-of-jobs-and-employers/exploring-jobs-and-sectors/popular-sectors/finance-management-legal-services/law-legal-services/advocate-scotland

ที่มา https://study-uk.britishcouncil.org/plan-studies/choosing-course/subjects/law

Copyright © 2010-2024 GoVisaEdu All rights reserved

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *