เรียน Chiropractic ศาสตร์จัดกระดูกที่อเมริกา

ไคโรแพรกเตอร์ ( Chiropractor) คือผู้ประกอบวิชาชีพบำบัดด้วยศาสตร์ไคโรแพรกติก ที่ได้รับใบอนุญาตซึ่งไคโรแพรกเตอร์จะทำการวินิจฉัยและรักษาอาการผิดปกติทางกลไกของกระดูกสันหลังและข้อต่อ โดยทั่วไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะทำการรักษาโดยใช้วิธีการแบบองค์รวม เช่น การใช้น้ำ การบำบัดด้วยความร้อน อุปกรณ์พยุงร่างกาย และการปรับกระดูกสันหลังด้วยมือ ผู้บำบัดโรคกระดูกสันหลังจะไม่สั่งจ่ายยาหรือทำการผ่าตัด

ไคโรแพรกเตอร์จะต้องเรียนผ่านการเรียนจบปริญญาตรีก่อนและเรียนต่อด้วย Doctor of Chiropractic (D.C.) จากมหาวิทยาลัยหรือวิทยาลัยโรคกระดูกและข้อที่ได้รับการรับรองอีก 4 ปี และต้องมีชั่วโมงเรียนขั้นต่ำ 4,200 ชั่วโมง เนิ้อหาที่เรียนประกอบด้วย

  • ปีแรก จะเรียน general anatomy, chiropractic principles biochemistry, and spinal anatomy
  • ปีที่ 2 เรียน chiropractic procedures, pathology, clinical orthopedics, imaging interpretation และ research methods
  • ปีที่ 3 ทำ clinical internships เรียนเกี่ยวกับ integrated chiropractic care, pediatrics, dermatology, practice management และ ethics and jurisprudence
  • ปีที่ 4 ทำ Clinical internships and หมุนเวียนไปฝึกตามโรงพยาบาลหรือคลีนิค

เมื่อสำเร็จการศึกษา Doctor of Chiropractic ผู้สำเร็จการศึกษาจะต้องผ่านการสอบที่มีชื่อเรียกกันว่า National Board of Chiropractic Examiners (NBCE) และ Exams ที่เป็นข้อบังคับของการเป็นไคโรแพรกเตอร์จนได้รับใบอนุญาตเป็นไคโรแพรกเตอร์ในรัฐนั้น ไคโรแพรกเตอร์ไม่ถือว่าเป็นแพทย์เหมือนแพทย์ที่จบจากโรงเรียนแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐอเมริกาดีกรี Doctor of Chiropractor (DC) ุุุุุถือว่าเทียบเท่ากับดีกรี Doctor of Medicine (MD) เพราะทั้งหลักสูตรของ D.C. และ M.D. ต้องใช้เวลาเรียนและการลงทุนทางการเงินเป็นจำนวนมาก หลักสูตรของ D.C. ประกอบด้วยเวลาเรียนในห้องเรียนอย่างน้อย 4,200 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับระยะเวลาที่เรียนในโรงเรียน M.D.

แพทย์ คือ แพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์ที่ได้รับการรับรอง แพทย์ต้องผ่านการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือผ่าน Pre-Med และศึกษาใน Medical school อีกประมาณ4 ปี โดยมีหลักสูตรต่างๆ เช่น พยาธิวิทยา กายวิภาคศาสตร์ ชีวเคมี การแพทย์ เคมี สถิติ และแคลคูลัส เป็นต้น หลังจากเรียนจบได้ Doctor of Medicine(MD) แพทย์จะต้องเรียนต่อแพทย์เฉพาะทางอีก 3 ปีขึ้นไป ระยะเวลาที่จะใชเ้เรียนขึ้นอยู่กับวิชาที่จะเลือกเป็นผู้เชี่ยวขาญภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า แพทย์คือแพทย์ที่มักจะเชี่ยวชาญในสาขาใดสาขาหนึ่ง เช่น โรคหัวใจหรือมะเร็งวิทยา ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ทำงานเพื่อส่งเสริม รักษา และฟื้นฟูสุขภาพของผู้ป่วย พวกเขาอาจวินิจฉัยโรค รักษาอาการบาดเจ็บ หรือรักษาความบกพร่องทางร่างกายและจิตใจอื่นๆ แพทย์มักจะสั่งยาและทำการผ่าตัดได้ ซึ่งต่างจากไคโรแพรกเตอร์

จุดที่เหมือนกันระหว่างไคโรแพรกเตอร์และแพทย์ คือ ก่อนเข้าศึกษาต่อในระดับบัณฑิตศึกษา การศึกษาระดับปริญญาตรีของนักไคโรแพรกติกและแพทย์รุ่นใหม่สามารถเหมือนกันได้ โดยหลักสูตรทั้งสองจะคล้ายกันในช่วง 2 ปีแรก หลักสูตรวิชาการมีความคล้ายคลึงกัน และกายวิภาคศาสตร์ในการเรียนแพทย์ด้านกระดูกก็มีความเข้มงวดพอๆ กับการเรียนไคโรแพรกติก นักศึกษาทั้งสองประเภทยังจะเรียนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อให้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ยิ่งไปกว่านั้น ในการเรียนระดับบัณฑิตศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์พื้นฐาน หลักสูตรเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันมากกว่าไม่คล้ายคลึงกัน ทั้งในด้านประเภทของวิชาที่เปิดสอนและในเวลาที่จัดสรรให้กับแต่ละหัวข้อ หลักสูตรไคโรแพรกติกและการแพทย์ยังมีจุดร่วมบางประการในสาขาวิทยาศาสตร์ทางคลินิก นอกจากนี้ นักไคโรแพรกติกและแพทย์มีเป้าหมายอาชีพที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือ สุขภาพและความสมบูรณ์แข็งแรงของผู้ป่วย พวกเขาต้องการให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและปราศจากความเจ็บปวด และแม้ว่าการใช้คำจะแตกต่างกันเล็กน้อย แต่นักไคโรแพรกติกและแพทย์จะสาบานตนเมื่อสำเร็จการศึกษา โดยอุทิศตนในการฝึกฝนที่จะไม่ทำร้ายผู้อื่น ช่วยเหลือคนป่วย และบรรเทาความทุกข์ทรมานโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ สีผิว หรือชนชั้นของผู้ป่วย

นอกจากนี้ อาชีพทั้งสองยังอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลที่ดูแลคุณภาพของผู้เชี่ยวชาญในสาขาและทำงานเพื่อรักษาคุณภาพและจริยธรรมของการบำบัดด้วยการจัดกระดูกและการดูแลทางการแพทย์ แพทย์ด้านการจัดกระดูกและแพทย์จะต้องได้รับใบอนุญาตตามข้อกำหนดของรัฐและปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพเฉพาะเมื่อให้บริการผู้ป่วย

ส่วนในความแตกต่างกันคือ 2 ปีสุดท้ายของการเรียนในโรงเรียนไคโรแพรกติกจะเน้นที่การจัดกระดูกและวิชาชีวกลศาสตร์ (biomechanics) ซึ่งสอนในคลินิกที่โรงเรียน ในขณะที่ในโรงเรียนแพทย์ มีการหมุน เวียนเรียนทุก 6 สัปดาห์ในสาขาการแพทย์ ได้แก่ ศัลยกรรม กุมารเวชศาสตร์ และสาขาเฉพาะทางอื่นๆ เช่น ผิวหนัง กระดูกและข้อ และรูมาติสซั่ม เป็นต้น

ความแตกต่างที่เห็นชัดที่สุดคือ ข้อกำหนดการปฏิบัติทางคลินิก ในทางการแพทย์ แพทย์ที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตต้องเข้ารับการฝึกอบรม Residency อย่างน้อย 3 ปี และอาจต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมอีก 5-6 ปี จากนั้นอาจเพิ่มระยะเวลาฝึกอบรม Fellowship อีก 1-3 ปี ในขณะที่ไคโรแพรกเตอร์ที่เพิ่งได้รับใบอนุญาตสามารถเริ่มปฏิบัติงานได้ทันที

ในสหรัฐอเมริกามีคำเรียก Chiropractor ได้หลายอย่าง คือ Doctor of Chiropractic บ้าง Chiropractic Physician บ้าง เพราะถือว่าเป็นแพทย์ที่ได้รับการฝึกอบรมให้วินิจฉัยและรักษาความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูกและระบบประสาทได้อย่างแม่นยำ และ Chiropractor หรือแพทย์โรคกระดูกและข้อบางคนก็เลือกที่จะเรียนเฉพาะทางในสาขาต่างเพิ่มเติมๆ เช่น ระบบประสาท ออร์โธปิดิกส์ และเวชศาสตร์การกีฬา (https://www.bridgeport.edu/news/chiropractic-vs-medical-school/) งานส่วนใหญ่ของแพทย์โรคกระดูกสันหลังหรือไคโรแพรกเคอร์คือการปรับกระดูกเพื่อรักษาและบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดจากการปวดหลังส่วนล่าง ปวดคอ ปวดหัว อาการที่เกี่ยวข้องกับการเหวี่ยงคอ ปวดเชิงกราน ปวดแขนและไหล่ ปวดขาและสะโพก ในขณะที่แพทย์ด้านกระดูกและข้อ ( Orthopedic Doctor) จะรักษาระบบกล้ามเนื้อและโครงกระดูกทั้งหมด

ไคโรแพรกติกแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือกลุ่ม ” Straights” ซึ่งปัจจุบันเป็นกลุ่มน้อย เน้นที่พลังชีวิต “สติปัญญาที่ติดตัวมาแต่กำเนิด” และถือว่ากระดูกสันหลังเคลื่อนเป็นสาเหตุของโรคทั้งหมด พวกเขาจะเชื่อในทฤษฎีที่ว่าหากกระดูกสันหลังไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง จะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางของร่างกายทำงานผิดปกติ Straight Chiropractic มักจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระดูกสันหลัง ด้วยความเชื่อตามหลักที่ว่าการแก้ไขแนวกระดูกสันหลังสามารถรักษาได้ พวกเขาเชื่อว่าปัญหาสุขภาพหลายอย่างเริ่มต้นจากกระดูกสันหลังที่เคลื่อนซึ่งส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาท ส่วนอีกกลุ่มเรียกว่ากลุ่ม “Mixer” เป็นกลุ่มที่เปิดรับมุมมองกระแสหลักและเทคนิคทางการแพทย์แบบเดิม เช่น การออกกำลังกาย การนวด และการบำบัดด้วยน้ำแข็ง เป็นต้น กลุ่ม Mixer มักจะผสมผสานวิธีการรักษาแบบต่างๆ เข้าด้วยกัน พวกเขาใช้แนวทางการรักษาที่แตกต่างกันควบคู่ไปกับการปรับกระดูกสันหลัง แพทย์เหล่านี้มีทัศนคติที่ดีต่อการผสมผสานการรักษาด้วยการจัดกระดูกสันหลังและการรักษาทางการแพทย์อื่นๆ เข้าด้วยกัน

รายชื่อวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการรับรองจาก National Board of Chiropractic ExaminersNBCE ( https://www.nbce.org/links-to-chiropractic-colleges/)

Copyright © 2010-2024 GoVisa All rights reserved

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *