การศึกษาวิชารัฐศาสตร์ (Poloitical Science) เกิดจากความจำเป็นที่สังคมเล็งเห็นว่า ประชาชนรู้จักสิทธิและหน้าที่ของตนเองในฐานะพลเมืองและสมาชิกขององค์กรการปกครองตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนถึงระดับชาติ ดังนั้นวิชาการเมืองการปกครองจึงเป็นต้นกำเนิดของวิชารัฐศาสตร์ซึ่งต่อมาได้รับการพัฒนา จนนักรัฐศาสตร์ได้ให้ความสนใจต่อกระบวนการบริหารงานของรัฐ ( Public Administration) และการเพิ่มประสิทธิผลของการบริการสาธารณะที่ออกมาในรูปแบบทางการศึกษาและความมั่นคง วิชาบริหารรัฐกิจ (Public Administarion) และวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ( International Affairs) จึงถูกบรรจุอยู่ในการศึกษาวิชารัฐศาสตร์ (Political Science) ของประเทศต่างๆ การศึกษาวิชารัฐศาตร์ในสหรัฐอเมริกาจะเน้นการเมืองการปกครอง อาทิ วิชาปรัชญาทางการเมือง ระบบและระบอบการเมือง การเมืองเปรียบเทียบ การเลือกตั้งและกระบวนการทางการเมือง และระเบียบวิธีวิจัย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะวิชาบริหารรัฐกิจเพิ่งถือกำเนิดในสหรัฐฯเมื่อราวทศวรรษ 1880 เมื่อข้าราชการและนักวิชาการอย่างวูดโรว์ วิลสันที่ทำงานเพื่อปฏิรูประบบราชการและนำการบริหารรัฐกิจเข้าสู่ขอบเขตของวิทยาศาสตร์ บริหารรัฐกิจ นโยบายสาธารณะและการบริหารซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มเข้ามาในการดำเนินการตามนโยบายสาธารณะ ดังนั้น การบริหารงานของสถานประกอบการของรัฐ (ธรรมาภิบาลสาธารณะ) การจัดการสถานประกอบการที่ไม่แสวงหาผลกำไร (ธรรมาภิบาลที่ไม่แสวงหากำไร) จึงถือเป็นสาขาย่อยของรัฐศาสตร์ที่สอนในนโยบายสาธารณะ https://en.wikipedia.org/wiki/Public_administration
อย่างไรก็ตาม ประมาณกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อทฤษฎีระบบราชการของนักสังคมวิทยาชาวเยอรมัน แม็กซ์ เวเบอร์ ได้รับชัยชนะ สาขาวิชาบริหารรัฐกิจกลายเป็นสหสาขาวิชาชีพ และเป็นหนึ่งในข้อเสนอที่หลากหลาย สำหรับสาขาวิชาย่อยของการบริหารรัฐกิจได้มีการกำหนดเสาหลักไว้ 6 ประการ ได้แก่ ทรัพยากรมนุษย์ ทฤษฎีองค์กร การวิเคราะห์นโยบาย สถิติ การจัดทำงบประมาณ และจริยธรรม การบริหารราชการหรือบริหารรัฐกิจเป็นส่วนหนึ่งของสาขาการบริหารที่ใหญ่กว่า มักถูกมองว่าเป็นระบบราชการ โดยไม่สนใจความจริงที่ว่าระบบราชการในรูปแบบองค์กรเฉพาะนั้นไม่เพียงพบในรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังสามารถพบได้ในองค์กรเอกชน จากมุมมองทางวิชาการของศูนย์สถิติการศึกษาแห่งชาติ (NCES) ในสหรัฐอเมริกา ให้คำจำกัดความการศึกษาการบริหารรัฐกิจว่า เป็นโปรแกรมที่เตรียมบุคคลให้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการในฝ่ายบริหารของรัฐบาลท้องถิ่น รัฐ และรัฐบาลกลาง และมุ่งเน้นการศึกษา การจัดองค์กรบริหารและการจัดการอย่างเป็นระบบ รวมถึงการสอนบทบาท การพัฒนา และหลักการบริหารรัฐกิจ การจัดการนโยบายสาธารณะ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและนิติบัญญัติ กระบวนการงบประมาณสาธารณะและการจัดการทางการเงิน กฎหมายปกครอง การบริหารงานบุคคลภาครัฐ วิชาชีพ จริยธรรม และวิธีการวิจัย
ในด้านวิชาการ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์หรือบริหารรัฐกิจประกอบด้วยสาขาวิชาหลัก 5 สาขาวิชา
- Organizational theory in public administration คือ การศึกษาโครงสร้างของหน่วยงานของรัฐและรายละเอียดต่างๆ
- Ethics in public administration เป็นแนวทางเชิงบรรทัดฐานในการตัดสินใจ
- Policy analysis คือ การวิเคราะห์นโยบายและการประเมินโครงการทำหน้าที่เป็นแนวทางเชิงประจักษ์ในการตัดสินใจ
- Public budgeting and Public finance คือ การจัดทำงบประมาณสาธารณะเป็นกิจกรรมภายในรัฐบาลที่พยายามจัดสรรทรัพยากรที่ขาดแคลนท่ามกลางความต้องการที่ไม่จำกัด และการคลังสาธารณะเป็นการศึกษาบทบาทของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจ โดยใช้วิชาเศรษฐศาสตร์ที่ประเมินรายได้ของรัฐบาลและรายจ่ายของรัฐบาลของหน่วยงานสาธารณะ และการปรับเปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้บรรลุผลที่พึงประสงค์และหลีกเลี่ยงผลที่ไม่พึงประสงค์
- Human resource management เป็นการจัดพนักงานบริการในที่สาธารณะให้ดำเนินการในลักษณะที่เป็นกลาง มีจริยธรรม และยึดตามค่านิยม หน้าที่พื้นฐานของระบบทรัพยากรบุคคล ได้แก่ ผลประโยชน์ของพนักงาน การดูแลสุขภาพของพนักงาน ค่าตอบแทน และอื่นๆ
ในส่วนของวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้มีพัฒนาการควบไปกันกับวิชาการเมืองและการปกครอง ในวิชานี้จะมีการใช้การวิเคราะห์นโยบายระหว่างประเทศร่วมกับวิชาอื่นๆอาทิ บริหารธุรกิจ สื่อสารมวลชน เป็นต้น ดังนั้นผู้เข้าเรียนวิชานี้ในระดับปริญญาตรีจะได้เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ การเมืองและการปกครอง การอธิบายสังคม นโยบายสาธารณะ พฤติกรรมทางธุรกิจ ความขัดแย้งระดับโลก ความมั่นคงระดับโลก ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และเมื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโทจะมุ่งเน้นไปที่วิธีการที่ประเทศต่างๆ มีปฏิสัมพันธ์กันในโลกยุคโลกาภิวัตน์ บ่อยครั้งที่หลักสูตรการศึกษาจะรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การทูต นโยบายต่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ หรือเศรษฐศาสตร์ และในบางครั้งการศึกษาระดับปริญญานี้อาจต้องการให้นักศึกษาเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพิ่มเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีความพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการจัดการกับความท้าทายด้านนโยบายที่ซับซ้อนของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะผู้ที่ศึกษาวิชานี้มีเป้าหมายในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย ไม่ได้เป็นแค่นักการทูตเพียงอย่างเดียว พวกเขาเหล่านั้นอาจจะวางแผนป็นนักวิเคราะห์หรือผู้จัดการ การทำงานในที่สาธารณะ หรือการทำงานให้กับธุรกิจระหว่างประเทศต่างๆ หรือแม้แต่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศ และอื่นๆ สำหรับรายชื่อมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนหลักสูตร International Relations หรือ International Affairs สามารถค้นหาได้ที่
- https://www.usnews.com/best-colleges/international-relations-major-4509
- https://www.niche.com/colleges/search/best-colleges-for-international-relations/
- the Association of Professional Schools of International Affairs (APSIA) คือ สมาคมโรงเรียนวิชาด้านชีพวิเทศสัมพันธ์ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2532 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในกิจการระหว่างประเทศ https://apsia.org/graduate-schools-programs/ ข้อดีของเว็บไซต์ APSIA คือจะมีการประกาศให้ทุนอยู่เนืองๆ
มหาวิทยาลัยเปิดสอนหลักสูตรระดับปริญญาตรี เช่น Bachelor of Science (BS) หรือ Bachelor of Arts (BA) in Public Administration หรือ in Government, หรือ in Political Science หรือ in International affairs โดยอาจจะมีวิชาให้เลือกเฉพาะเจาะจงเช่น Public Policy และ Administration หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา(ปริญญาโท)จะเตรียมนักศึกษาให้พร้อมเป็นผู้บริหารระดับสูงอย่างมืออาชีพ ในสาขา Public Administration โดยทั่วไปบางมหาวิทยาลัยจะมีเปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทสาขารัฐประศาสนศาสตร์หรือบริหารรัฐกิจ(MPA) บางมหาวิทยาลัยอาจจะเรียกชื่อดีกรีให้ผู้ที่เรียนทางสายการบริหารจัดการว่า Master of Arts (MA) หรือ Master of Science (MS) in Public Administration ในขณะเดียวกันจะเรียกชื่อดีกรีสำหรับผู้ที่เข้าศึกษาวิชาเดียวกันแต่อยู่ในในสายงานวิชาวิจัยว่าเรียนจบ Master of Public Policy (MPP), Master of Arts (MA) หรือ Master of Science (MS) in Public Policy มหาวิทยาลัยบางแห่งที่มีสอนทั้งแบบการจัดการและการวิจัยก็จะเรียกชื่อดีกรีผู้เรียนจบว่า Master of Public Policy and Administration (MPPA) แม้ว่าทั้งปริญญาการบริหารสาธารณะและนโยบายสาธารณะจะมีความทับซ้อนกันอย่างมากทั้งในด้านเนื้อหาทางวิชาการและโอกาสในการทำงาน ยกเว้นข้อกำหนดทางวิชาการที่แตกต่างกันบางประการโดยพิจารณาจากความเชี่ยวชาญพิเศษที่ต้องการในอาชีพในอนาคต สถาบันการศึกษาที่เปิดสอนรัฐศาสตร์แต่ละแห่งในสหรัฐอเมริกาย่อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสีบเนื่องมาจากปรัชญาการศึกษาของมหาวิทยาลัย ที่ตั้ง ความต้องการของตลาดแรงงานในท้องถิ่น และงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจากมลรัฐที่ต่างกัน เช่น จากเนื้อหาวิชาบริหารรัฐกิจที่ University of Michigan Ann Arbor หรือที่ Duke University จะเน้นวิชาที่เกี่ยวข้องกับการคำนวณ สถิติ และเศรษฐศาสตร์ ในขณะที่บางมหาวิทยาลัยจะเน้นระบบราชการและการวางนโยบายสาธารณะ หรือวิชาการเมืองการปกครองของบางมหาวิทยาลัยจะเน้นเฉพาะปรัญชาการเมือง หลักสูตรปริญญาเอกสาขารัฐประศาสนศาสตร์ นโยบายสาธารณะ และรัฐศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านนโยบายสาธารณะและการบริหาร ยังมีเปิดสอนเป็นหลักสูตรระดับปลายสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาหรือสอนในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาอีกด้วย โปรแกรมการศึกษาเหล่านี้เรียกรวมกันว่าปริญญานโยบายสาธารณะ และโดยทั่วไปจะสอนใน Public Policy Schools ในขณะที่บางหลักสูตรสอนใน Colleges of Arts And Sciences ทั่วไปในมหาวิทยาลัย
สรุป MPA มีไว้สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเรื่องการดำเนินการและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ ส่วน MPP เหมาะสำหรับนักศึกษาที่ต้องการวิเคราะห์ปัญหาสาธารณะและแนะนำการปรับปรุง MPA ให้ความสำคัญกับเทคนิคการจัดการและการดำเนินการมากกว่า ในขณะที่โปรแกรม MPP เน้นการวิจัยและประเมินนโยบาย (เช่น การวิเคราะห์ทางสถิติมากขึ้น) ตัวอย่างเช่น หลักสูตรการวิเคราะห์วิธีนโยบายจะได้รับความนิยมมากกว่าในหมู่นักศึกษา MPP ในขณะที่หลักสูตรเศรษฐศาสตร์การจัดการอาจเกี่ยวข้องกับนักศึกษา MPA มากกว่า ปริญญา MPP มุ่งเน้นไปที่การกำหนดและประเมินนโยบายสาธารณะ ทักษะที่เข้มงวดและมุ่งเน้นสำหรับนักศึกษาที่ต้องการประกอบอาชีพด้านการวิเคราะห์นโยบาย ขณะที่ปริญญา MPA มุ่งเน้นไปที่การดำเนินการตามนโยบายสาธารณะ และนอกเหนือจากหลักสูตร MPA และ MPP แบบดั้งเดิม ภาคการศึกษาด้านกิจการสาธารณะ (Public Affairs Education Sector) ยังมีหลักสูตรปริญญาอีกหลายหลักสูตรให้เลือกเรียน เช่น Master in Public Affairs, Master in Public Management หรือ Master in Nonprofit Administration เว็บไซต์ของ NASPAA คือ https://www.naspaa.org/schools-search เป็นอีกหนึ่งช่องทางเลือกที่จะใช้ค้นหารายชื่อสถาบันในในเมืองหรือในรัฐที่นักศึกษาสนใจได้
Public policy schools ในสหรัฐอเมริกา เป็นหลักสูตรจัดการการวิเคราะห์นโยบาย แต่แต่ละมหาวิทยาลัยจะมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน เช่น Harris School of Public Policy Studies ที่ University of Chicago มีแนวทางในการสอนเชิงปริมาณและเศรษฐศาสตร์มากกว่านโยบาย Heinz College ที่ Carnegie Mellon ใช้วิธีการคำนวณและวิธีการทางเทคโนโลยีมาวิเคราะห์ หรือ John F. Kennedy School of Government ที่ Harvard University เน้นแนวทางรัฐศาสตร์และความเป็นผู้นำ ขณะที่ School of Public and Environmental Affairs ที่ Indiana Uniersity เน้นการฝึกอบรมนโยบายสาธารณะแบบดั้งเดิม โดยมีความเข้มข้นในหลากหลายสาขาวิชาในสาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและการจัดการที่ไม่แสวงหากำไร ส่วน University of Illinois at Chicago มุ่งฝึกอบรมนโยบายสาธารณะที่เน้นขั้นตอนของการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย เช่น การกำหนดวาระการประชุม ตลอดจนความสำคัญของผลกระทบของการกำหนดกรอบและขีดจำกัดด้านความรู้ความเข้าใจในการสร้างนโยบาย เป็นต้น
ตัวอย่างรายชื่อ Public Policy Schools ที่ได้รับการรับรองจาก the Network of Schools of Public Policy, Affairs, and Administration (NASPAA)
- The Carsey School of Public Policy at the University of New Hampshire
- Johns Hopkins Institute for Policy Studies and Graduate Program in Public Management at Johns Hopkins University
- Princeton School of Public and International Affairs at Princeton University
- McCourt School of Public Policy at Georgetown University
- Ford Dorsey Master’s in International Policy at Stanford University
- John F. Kennedy School of Government at Harvard University
- School of International and Public Affairs at Columbia University
- School of International Service and School of Public Affairs at American University
- Institute for Public Affairs at Cornell University
- Harris School of Public Policy Studies at the University of Chicago
- Goldman School of Public Policy at the University of California, Berkeley
- Luskin School of Public Affairs at the University of California, Los Angeles
- Robert F. Wagner Graduate School of Public Service at New York University
- Robert M. La Follette School of Public Affairs at the University of Wisconsin–Madison
- Gerald R. Ford School of Public Policy at the University of Michigan
- Harry S Truman School of Public Affairs at the University of Missouri
- Daniel J. Evans School of Public Affairs at the University of Washington
- Edward J. Bloustein School of Planning and Public Policy at Rutgers University
- UCR School of Public Policy at the University of California, Riverside
- Center for Public Administration and Policy at Virginia Tech
- Andrew Young School of Policy Studies at Georgia State University
- Fels Institute of Government at the University of Pennsylvania
- Frank Batten School of Leadership and Public Policy at the University of Virginia
- Schar School of Policy and Government at George Mason University
- H. John Heinz III College of Information Systems and Public Policy at Carnegie Mellon University
- Hubert H. Humphrey School of Public Affairs at the University of Minnesota
- Ivan Allen College of Liberal Arts at the Georgia Institute of Technology
- O’Neill School of Public and Environmental Affairs at Indiana University Bloomington
- John Glenn School of Public Affairs at Ohio State University
- Arkansas State University College of Liberal Arts and Communication
- Frederick S. Pardee RAND Graduate School at the RAND Corporation
- Lokey School of Business and Public Policy at Mills College
- Lyndon B. Johnson School of Public Affairs at the University of Texas at Austin
- Martin School of Public Policy and Administration at the University of Kentucky
- Master of Public Administration Program (UMPA) at the University of Miami[7]
- Marxe School of Public and International Affairs at Baruch College[8]
- Maxine Goodman Levin College of Urban Affairs at Cleveland State University[9]
- Maxwell School of Citizenship and Public Affairs at Syracuse University
- Monterey Institute of International Studies at Middlebury College
- Rockefeller College of Public Affairs and Policy at the University at Albany, SUNY
- Sanford School of Public Policy at Duke University
- School of Public Policy at the University of Massachusetts Amherst
- Helms School of Government at Liberty University
- Sol Price School of Public Policy at the University of Southern California
- School of Public Policy at Oregon State University
- The Bush School of Government and Public Service at Texas A&M University
- Trachtenberg School of Public Policy and Public Administration at The George Washington University
- Clinton School of Public Service at the University of Arkansas
- School of Public and International Affairs at the University of Georgia
- Department of Public Policy at the University of Maryland, Baltimore County
- School of Public Policy at the University of Maryland, College Park
- School of Public Policy at Pepperdine University
- University of Pittsburgh Graduate School of Public and International Affairs School of Public Policy and Urban Affairs at Northeastern University
สรุปผังเนื้อหาการเรียนรัฐศาสตร์คร่าวๆในสหรัฐอเมริกา
ด้านการเมืองการปกครอง | ด้านบริหารรัฐกิจ | ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ |
ปรัชญาการเมือง | ระบบนโยบายสาธารณะ | การกำหนดนโยบายต่างประเทศ |
การเมืองและการปกครองเปรียบเทียบ | การวิเคราะห์งบประมาณและการคลัง | กฎหมายระหว่างประเทศ |
การเมืองในระดับชาติ ระดับมลรัฐ และระดับท้องถิ่น | การบริหารงานบุคคลและทรัพยากรมนุษย์ | เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ |
ระบบและรูปแบบการเลือกตั้ง และ ฯลฯ | ทฤษฎีและการจัดการองค์กร และฯลฯ | การบริหารงานธุรกิจระหว่างประเทศ และฯลฯ |
ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/Public_policy_school
Copyright © 2010-2023 GoVisaEdu All rights reserved