การใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตชำระค่าเรียนในต่างประเทศ

การใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตชำระค่าเรียนในต่างประเทศ เมื่อก่อนนักศึกษาสามารถใช้บัตรเครดิตในการชำระค่าเล่าเรียนให้กับสถานศึกษาในต่างประเทศได้ ในปัจจุบันนักศึกษามีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น เมื่อหลายสถานศึกษาในต่างประเทศยอมให้นักศึกษาชำระค่าเล่าเรียนผ่านบัตรเดบิตได้ ดังนั้นนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษา ยังไม่มีงานทำไม่มีเงินรายรับไม่มีบัตรเครดิตเป็นของตนเอง นอกจากจะใช้บัตรเดบิตชำระค่าสินค้าที่สั่งซื้อจากต่างประเทศได้แล้ว ยังใช้ในการทำธุรกรรมอื่นๆได้อีก เช่น ชำระค่าตั๋วเครื่องบิน ชำระค่าเล่าเรียน ชำระค่าธรรมเนียม Sevis I-901 ในการยื่นคำร้องขอวีซ่าเพื่อไปศึกษาต่อหรือไปทำงานในประเทศสหรัฐอเมริกา ฯลฯ อย่างไรก็ตาม  ยังมีนักศึกษาอีกจำนวนหนึ่งซึ่งอาจจะรวมถึงคุณพ่อคุณแม่ของนักศึกษาที่อาจจะยังไม่เข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างบัตรเดบิตและบัตรเครดิต ตลอดจนวิธีการใช้งาน หากต้องการนำบัตรเดบิตที่ออกโดยสถาบันทางการเงินในประเทศไทย เช่น ธนาคาร หรือสถาบันที่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์) เช่น บัตรเครดิตที่ออกโดยห้างสรรพสินค้าไปใช้ในต่างประเทศจะทำได้หรือไม่ การออกบัตรเดบิตและบัตรเครดิต จะเป็นการออกบัตรร่วมกันระหว่างสถาบันดังกล่าวในประเทศไทย เช่น สถาบันการเงินในประเทศไทยกับเครือข่ายบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตระหว่างประเทศ อาทิ บริษัท Visa International , MASTERCARD, AMEX, JCB หรือ UnionPay เป็นต้น บัตรเครดิต จึงเปรียบเสมือนการที่ผู้ถือบัตรขอยืมเงินจากธนาคารออกมาใช้ก่อน เมื่อถึงกำหนดเวลาการใช้เงินคืนคือ 45 วันหรือ 55 วันแล้วแต่ธนาคารผู้ออกบัตรเครดิต  ผู้ถือบัตรเครดิตสามารถเลือกที่จะชำระงินคืนเต็มจำนวนและตรงตามเวลาที่ตกลงไว้กับธนาคาร ซึ่งหมายความว่าผู้ถือบัตรจะไม่ถูกหักค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยให้กับธนาคาร แต่ถ้าผู้ถือบัตรเครดิตเลือกที่จะผ่อนชำระคืนครั้ง 10 %  ของยอดเงินในใบแจ้งยอดเงิน ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ย 20% …

การใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตชำระค่าเรียนในต่างประเทศ Read More »