สรุปหลักฐานสำคัญที่ต้องยื่นในวันนัดสัมภาษณ์วีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกา

การนำเอกสารไปแสดงให้กงสุลดูในวันนัดสอบสัมภาษณ์วีซ่า มีเอกสารที่ผู้รู้หลายๆท่านแนะนำกัน หรือบอกต่อๆกัน หลากหลายรูปแบบ ผู้ยื่นขอวีซ่าบางท่านเขียนสอบถามกันว่า สถานทูตไม่ได้บอกให้นำจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร หรือ สมุดบัญชีเงินฝากตัวจริงไปแสดงเลย ทำให้ผู้ที่ยังไม่เคยยื่นขอวีซ่าเกิดความสับสนว่า แล้วควรจะนำเอกสารใดไปยื่นบ้างในวันนัดสัมภาษณ์  แนะนำให้ลองเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมจากเว็บไซต์สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำกรุงเทพ http://thai.bangkok.usembassy.gov/root/pdfs/nivchecklist-thai.pdf  ซึ่งอยู่ในรูป file pdf มีด้วยกัน 4 หน้า เรียงตามลำดับ ดังนี้ คือ

ในหน้า 2 มี รายการสรุปเอกสารที่ให้นำไปในวันนัดสัมภาษณ์เรียงตามลำดับมี  4-5 ชิ้นเอกสาร คือ หนังสือเดินทาง หน้ายืนยันแบบฟอร์ม DS 160 ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า แบบฟอร์ม I-20 หรือ DS 2019 แบบฟอร์ม I-797 และ I-129  สองแบบฟอร์มหลังสำหรับผู้ขอวีซ่าไปทำงาน อาทิ เช่น J-1 กับ H1B  ส่วนเอกสารอื่นๆที่หลายเว็บไซต์แนะนำ หรือ หลายกระทู้เขียนบอกเล่าประสบการณ์จริงในการสัมภาษณ์ล้วนอยู่ในหมวด  หลักฐานพิสูจน์ความผูกพันภายนอกสหรัฐ ทั้งสิ้น เช่น จดหมายรับรองการทำงาน จดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร สมุดเงินฝาก หลักฐาน Transcript และอื่นๆ ดัง นั้น ที่หลายๆท่านมีข้อสงสัยว่า ทำไมให้เตรียมเอกสารมากมาย ไม่เห็นกงสุลขอดูอะไรเลย หรือเจ้าหน้าที่สถานทูตดึงเอกสารออกบ้าง จะให้กงสุลดูเอกสารได้อย่างไร เป็นต้น ขอยกตัวอย่างคำอธิบายในหัวข้อ ‘ หลักฐานพิสูจน์ความผูกพันภายนอกสหรัฐ

การ พิสูจน์ความผูกพันภายนอกสหรัฐอเมริกา กฎหมายว่าด้วยการเข้าเมืองสหรัฐฯ บัญญัติว่าบุคคลต่างด้าวทุกคนจะได้รับการสันนิฐานว่ามีเจตนาจะอยู่ในอยู่ใน สหรัฐฯ ถาวร จนกระทั่งบุคคลดังกล่าวจะสามารถแสดงให้เจ้าหน้าที่กงสุลเห็นจนเป็นที่พอใจ ขณะรับการสัมภาษณ์วีซ่าประเภทชั่วคราว (NIV) และต่อเจ้าหน้าตรวจคนเข้าเมืองขณะขอสมัครเข้าประเทศสหรัฐฯ ว่าตนไม่มีความตั้งใจจะเดินทางไปอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร หน้าที่ในการพิสูจน์ดังกล่าวเป็นของผู้สมัครวีซ่า หากผู้สมัครไม่สามารถพิสูจน์ได้จนเป็นที่พอใจของเจ้าหน้าที่กงสุล ตามกฎหมายแล้วถือว่าบุคคลต่างด้าวดังกล่าวเป็นผู้สมัครต้องการอยู่ในสหรัฐฯ เป็นการถาวร และไม่ควรได้รับวีซ่าประเภทชั่วคราว (NIV) ผู้สมัครสามารถพยายามหักล้างข้อสันนิฐานดังกล่าวโดยการแสดงหลักฐานความ ผูกพันทางครอบครัว ทางเศรษฐกิจ และทางสังคมอื่นๆ ที่มีต่อประเทศนอกสหรัฐฯ ไม่มีญาติ นายจ้าง หรือเพื่อนของผู้สมัครที่สามารถ “รับประกัน” ว่าผู้สมัครจะเดินทางกลับจากสหรัฐฯ แทนที่หลักฐานที่กล่าวมาได้ โดยไม่คานึงว่าผู้ใดเป็นผู้สนับสนุน การเดินทาง เจ้าหน้าที่กงสุลจะพิจารณาสถานการณ์ของผู้สมัครและตัดสินใจว่า บุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติได้รับวีซ่าตามที่กาหนดไว้หรือไม่ ตามกฎหมายแล้วผู้สมัครวีซ่ามีหน้าที่แสดงให้เห็นว่าตนมีคุณสมบัติได้รับ วีซ่า การนาเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จอาจทำให้ท่านไม่ได้รับวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ตลอดชีวิต

เมื่อเวลาถูกซักถามจากกงสุล และผู้ยื่นขอวีซ่าเห็นว่า ควรนำหลักฐานที่เตรียมมา ออกมาแสดงประกอบด้วยเพื่อเป็นการยืนยันให้กงสุลเกิดความเชื่อมั่นว่า หากท่านได้รับอนุมัติวีซ่าแล้ว และเดินทางเข้าไปสหรัฐอเมริกาแล้ว เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจ ท่านจะเดินทางออกจากประเทศสหรัฐอเมริกากลับประเทศไทยแน่นอน

Copyright © 2010-2011 GoVisa All rights reserved.