เว็บไซต์การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา
นักศึกษาที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับ 3.0 ขึ้นไป ย่อมมีความใฝ่ฝันที่จะมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อว่า เข้าเรียนยากที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยประเภทนี้นอกจากจะมีเกณฑ์มาตราฐานในการรับเข้าศึกษาต่อยากแล้ว ยังมีการแข่งขันสูงจากบรรดาผู้ส่งสมัครที่จบมาจากสถานศึกษาชั้นนำของประเทศต่างๆ นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องแข่งจันกับผู้สมัครคนอื่นๆเป็นจำนวนตัวเลขหลักหมื่นราย ทั้งนี้เพื่อคัดเลือกนักศึกษาที่เหมาะสมที่สุดกับมหาวิทยาลัยแห่งนั้น ซึ่งอัตราการตอบรับของบางสถานศึกษาอาจจะมีจำนวนสูงสุดประมาณ 1,000 คน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายความสามารถของผู้สมัคร นับตั้งแต่การเตรียมตัวส่งสมัคร การสร้างแฟ้มประวัติให้ดูน่าสนใจ ผลคะแนนแบบทดสอบมาตราฐานอยู่ในเกณฑ์ หรือมีความสามารถเหนือเกณฑ์การพิจารณาการรับเข้าเรียน แบบทดสอบมาตราฐานต่างๆอาทิ ผลคะแนนจากข้อสอบมาตราฐานทางภาษาอังกฤษ TOEFL iBT หรือ IELTS , ผลทดสอบการคิดวิเคราะห์และความถนัด เช่น GRE หรือ GMAT เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโท, หรือผลสอบ SAT สำหรับผู้สนใจสมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี,บางสาขาวิชาในระดับปริญญาโทเน้นให้ผู้เรียนต้องมีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 2 ปีมาก่อนการสมัครเข้าศึกษาต่อ เป็นต้น ขบวนการพิจารณาที่ท้าทายทำให้ความรู้สึกของผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าเรียนในสถานศึกษาชั้นนำเหล่านี้เกิดความภาคภูมิใจ และเชื่อมั่นว่า หลังจากศึกษาจบจะมีอนาคตที่สดใสในการหางานทำ ตลอดจนได้รับเงินเดือนที่พึงพอใจ หมายเหตุ ผู้สมัครที่ได้รับการตอบปฏิเสธจากสถาบันชั้นนำเหล่านี้ มิได้หมายความท่านเป็นคนไม่เก่ง แต่เนื่องจากมีการแข่งขันสูง และแต่ละสถานศึกษาไม่สามารถรับนักศึกษาได้ทั้งหมด ขอให้นักศึกษาพยายามใช้หลักการเบื้องต้นในการพิจารณาส่งสมัครเข้าศึกษาต่อด้วยวิจารณญาณ , ความเป็นเหตุเป็นผล , ความเหมาะสมของตัวผู้สมัคร , เนื้อหาหลักสูตร , และค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับฐานะของครอบครัว …
เว็บไซต์การจัดอันดับมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา Read More »