แบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE : อีกหนึ่งทางเลือก
แบบทดสอบภาษาอังกฤษที่มีมาตราฐานเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกนอกจาก TOEFL iBT, IELTS และ TOEIC แล้ว ยังมีแบบทดสอบภาษาอังกฤษที่มีชื่อเรียกกันสั้นๆว่า PTE อีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งเป็นที่ยอมรับในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ การสมัครงาน การยื่นขอวีซ่าถาวรในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
https://youtu.be/XVTDla8uU-U
PTE ย่อมาจาก Pearson Language Tests ได้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แต่ต้องการไปศึกษาต่อในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ PTE ได้รับการรับรองจาก Graduate Management Admission Council ( GMAC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและดูแลการสอบ GMAT แบบทดสอบ PTE ประกอบด้วย
- PTE Academic เริ่มสอบครั้งแรกในปีค.ศ. 2009 ใช้ประเมินทักษะผู้สอบทั้งการฟัง การพูด การอ่านและการเขียนในบริบทเนื้อหาที่มีลักษณะเป็นวิชาการ นอกจากนี้ยังใช้วัดผลด้านความคล่องแคล่วในการพูด ไวยากรณ์ คำศัพท์ การเขียน การออกเสียง และการสะกดคำ โดยใช้ระยะเวลาในการสอบนาน 3 ชั่วโมง https://pearsonpte.com/fast-facts-pearson-test-english-academic-pte-academic/
- PTE General หรือชื่อเดิมคือ London Tests of English ใช้วัดผลการเรียนภาษาอังกฤษของผู้เรียนเท่านั้น https://qualifications.pearson.com/en/qualifications/pearson-test-of-english/pearson-test-of-english-general.html
- PTE Young Learners เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6-13 ปี ไม่สามารถนำไปผลสอบไปใช้ยื่นวีซ่าถาวรได้ https://qualifications.pearson.com/en/qualifications/pearson-test-of-english/pearson-test-of-english-young-learners.html
อาจกล่าวได้ว่า แบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE ถือกำเนิดมาจากฝั่งสหราชอาณาจักร ดังจะเห็นได้จากแบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE ได้รับการรับรองจากหลายหน่วยงานในสหราชอาณาจักร อาทิ Qualifications and Curriculum Development agency (QCA) และ The Office of qualifications and Examinations Regulation (Ofqual) แบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE ยังอยู่ภายใต้การบริหารจัดการ โดยความร่วมมือกับองค์กรการตรวจสอบทางการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก คือ Pearson-London Examination in Malta (Edexcel) ที่ดูแลเรื่อง GCSE, GCE A Level, BTEC และอื่นๆ : https://en.wikipedia.org/wiki/Pearson_Language_Tests
มหาวิทยาลัยทุกระดับรวมทั้งมหาวิทยาลัยระดับชั้นนำของโลกยอมรับแบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE เช่น London Business School, Harvard Business School, Stanford Business School, Yale University, INSEAD, HEC Paris, IESE, IE Business School, ESADE, SDA Bocconi ในประเทศอิตาลี เป็นต้น
ข้อดีของแบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE คือ
- ทราบผลสอบเร็วภายในเวลา 5 วัน หรืออาจจะเร็วกว่านั้นเล็กน้อย
- สามารถกำหนดวันที่ที่ต้องการการสอบได้ภายในเวลา 24 ชั่วโมงก่อนการสอบ
- แบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE เน้นการใช้ทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตจริงที่ผู้สอบต้องใช้ในการสื่อสาร รวมทั้งภาษาอังกฤษที่ต้องใช้ในงานวิชาการ
- แบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE Academic เป็นแบบทดสอบที่ใช้ระบบ computer based test 100% เน้นการให้คะแนนที่ถูกต้องและเป็นธรรม ใช้ระบบ Biometrics ในการแสกนลายมือ การเซ็นต์ชื่อด้วยระบบดิจิตัล ไม่มีการส่งใบรายงานผลคะแนนด้วยกระดาษ และมี CCTV ในห้องสอบ
- มีศูนย์สอบอยู่มากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
- ผู้สอบสามารถส่งคะแนนสอบให้สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานที่ค้องการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
- ได้รับการรับรองจากประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ ในการใช้ผลสอบ PTE เป็นเอกสารชิ้นหนึ่งในการยื่นขอวีซ่านักเรียน รวมทั้งการยื่นขอวีซ่าเพื่อไปตั้งถิ่นฐานในประเทศทั้งสอง
- ได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาทั่วโลกมากกว่า 1,000 แห่ง
- ได้รับการยอมรับจากองค์กรทางวิชาชีพหลายแห่งจากทั่วโลก เช่น The Institute of Engineering Australia : https://www.engineersaustralia.org.au/For-Migrants/Migration-Skills-Assessment/Migration-Announcements
เนื้อหาแบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE ประกอบด้วย 4 ทักษะเช่นเดียวกับแบบทดสอบภาษาอังกฤษอื่นๆ เช่น TOEFL, IELTS คือ
- การฟัง (Listening) ใช้เวลาในการสอบนานประมาณ 45-57 นาที ประกอบด้วยเนื้อหาตามภาพ
- การอ่าน (Reading) ใช้เวลาในการสอบนานประมาณ 32-41 นาที
- การเขียน (Writing) และ 4. การพูด (Speaking) ใช้เวลาในการสอบรวม 77-79 นาที
ตัวอย่างมาตราฐานการให้คะแนน และความหมายของคะแนน เช่น ในส่วนของ Pronunciation and Oral Fluency
ผู้สนใจเรื่องการให้คะแนนสอบแบบทดสอบ PTE สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://pearsonpte.com/wp-content/uploads/2017/08/Score-Guide.pdf หรือจะลองรับชมวิดีทัศน์ประกอบความเข้าใจว่า PTE แบ่งออกเป็น 4 ทักษะ และแต่ละทักษะสอบอะไรบ้าง
วิธีการคิดคะแนนสอบ
คะแนนสอบจะเริ่มต้นจาก 10 -90 และจะประเมินผู้สอบทุกทักษะบนพื้นฐานของ Global Scale of English คือวัดทักษะตามระดับกลุ่มความรู้ของผู้สอบ กลุ่มผู้สอบถูกแบ่งคล้ายการจัดกลุ่มในการสอนภาษาอังกฤษ ได้แก่ Adult Learners, Academic English, Professional English , Young Learners : https://www.pearsonelt.com/content/dam/professional/english/pearsonelt.com/TeacherResources/GSE/GSE-Teacher-Toolkit-User-Guide_1.pdf
หมายเหตุ : CEFR คือ ตัวอักษรย่อของ Common European Framework of Reference for Languages หมายถึง กรอบมาตรฐานการประเมินความสามารถทางภาษา จากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป CEFR มีทั้งหมด 6 ระดับ แต่ละระดับของ CEFR จะบอกถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษทั้ง 4 ทักษะได้แก่ ทักษะการพูด การฟัง การอ่านและการเขียน ความหมายของ 6 ระดับ ได้แก่
การเปรียบเทียบคะแนนสอบของแบบทดสอบภาษาอังกฤษ PTE และแบบทดสอบภาษาอังกฤษ IELTS และ TOEFL iBT
วิธีการหาศูนย์สอบ และค่าสมัครสอบ คลิกเลือกศูนย์สอบที่เว็บไซต์ : https://pearsonpte.com/the-test/test-centers-and-fees/
ที่ตั้งศูนย์สอบ PTE ในประเทศไทยคือ อาคาร Bangkok Business Building ชั้น 10 ห้องหมายเลข 10-10 เลขที่ 54 สุขุมวิท 21 กรุงเทพมหานคร 10110
ตรวจสอบรายชื่อสถาบันทั่วโลกที่ยอมรับผลสอบ PTE ได้ที่เว็บไซต์ https://pearsonpte.com/the-test/who-accepts-it/
ผู้สอบหลายท่านอาจจะเกิดความลังเลว่า ควรเลือกสอบแบบทดสอบภาษาอังกฤษแบบใดดี ให้ผู้สอบลองศึกษาเนื้อหาข้อสอบของแต่ละแบบทดสอบ ไม่ว่าจะเป็น TOEFL iBT, IELTS หรือ PTE ศึกษาโครงสร้างของข้อสอบที่ต้องทำ และประเมินตนเองว่า เหมาะกับข้อสอบประเภทใด วิดีทัศน์เรื่องนี้ ผู้สอบคิดว่า PTE เหมาะกับตนเองมากกว่า IELTS ลองศึกษาจากวิดีทัศน์ว่า เพราะเหตุใด
Copyright © 2010-2018 GoVisaEdu All rights reserved.