ใกล้เปิดภาคเรียนภาคการศึกษาฤดูใบไม้ร่วงหรือเทอม Fall ผู้ปกครองและนักศึกษากำลังอยู่ในช่วงการตระเตรียมนำเงินไปจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าที่พักให้สถานศึกษา สำหรับวิธีการนำเงินออกไปจากธนาคารในประเทศไทยสามารถทำได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการซื้อคราฟท์ เช็คเดินทาง เงินสด โอนเงินระหว่างประเทศ บัตรเดบิต บัตรเครดิต นักศึกษาและผู้ปกครองหลายท่านมักจะลังเลใจว่า “วิธีการไหนจะดีที่สุด หรือเสียค่าธรรมเนียมให้ธนาคารน้อยที่สุด” ชึ่งเป็นคำถามที่ตอบได้ยากพอสมควร วิธีการที่ดีที่สุด คือ นักศึกษาควรจะอ่านระเบียบการจ่ายเงินของสถานศึกษาที่ตอบรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อด้วยว่า มีวิธีการจ่ายเงินแบบใดได้บ้าง เช่น ถ้ามหาวิทยาลัยมีทางเลือกให้ 2 วิธี คือ จ่ายด้วยบัตรเครดิต หรือจ่ายด้วย eCheck นักศึกษาก็จำเป็นต้องเลือกจ่ายด้วย eCheck เพราะนักศึกษาต่างชาติไม่สามารถขอมีบัตรเครดิตจากธนาคารในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ถ้านักศึกษาท่านนั้นไม่มี Social Security Number(SSN) นอกจากนักศึกษาจะสมัครทำงานในมหาวิทยาลัยเพื่อขอมี SSN หรือทำบัตรเครดิตเสริมจากบัตรเครดิตหลักของผู้ปกครอง โดยบัตรเครดิตเสริมดังกล่าวทำจากธนาคารในประเทศไทย ส่วน eCheck นั้น นักศึกษาจำเป็นต้องมีบัญชีกับธนาคารในประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อจัดส่ง eCheck ให้มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
วิธีการตรวจสอบว่า สถานศึกษามีวิธีการจ่ายเงินค่าเล่าเรียนแบบใดได้บ้างนั้น นักศึกษาจะต้องคลิกหาไอคอนเกี่ยวกับ Bursar Office ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยที่ตอบรับนักศึกษาเข้าเรียน เมื่อเข้าไปที่ Bursar Office ให้อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ Payment Options ว่ามีกี่วิธี อะไรบ้าง เลือกวิธีที่นักศึกษาคิดว่า สะดวกที่สุด เช่น ถ้ามหาวิทยาลัยให้จ่ายเป็นเช็ค นักศึกษาก็จะควรจะเขียนเช็คจากบัญชีธนาคารที่นักศึกษาเปิดอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนการที่จะได้รับเงินจากทางเมืองไทยก็แล้วแต่ความสะดวกของผู้ปกครองและนักศึกษาว่า จะเลือกใช้วิธีการโอนเงินจากบัญชีในประเทศไทยไปยังบัญชีของนักศึกษาในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 หรือ 3 วัน ขึ้นอยู่กับเมืองและรัฐที่นักศึกษาเลือกไปศึกษาต่อ หรือผู้ปกครองจะเลือกวิธีการส่งเงินในรูปของดราฟท์ไปให้นักศึกษาตามที่อยู่ของนักศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา ในกรณีหลังจะต้องมีการคำนวณเวลาของไปรษณีย์ในการนำส่งเอกสารประมาณ 1 อาทิตย์เป็นอย่างน้อย และเมื่อนำดราฟท์ไปเข้าบัญชีธนาคารในสหรัฐฯของนักศึกษา จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 2-5 วันเพื่อเบิกเงินสดออกมาใช้ได้ หากนักศึกษาไม่รีบร้อนที่จะต้องใช้เงิน วิธีหลังจะประหยัดค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายให้ธนาคารในประเทศไทย เมื่อเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในบัญชีธนาคารของนักศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว นักศึกษาค่อยเลือกอีกครั้งว่า จะใช้วิธีการจ่ายเงินค่าเล่าเรียนเป็นวิธีใดที่สะดวกกับนักศึกษาก็ได้
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยจำนวนมากในประเทศสหรัฐอเมริกาได้นำเสนอทางเลือกในการโอนเงินโดยตรงจากประเทศของนักศึกษาเพื่อจ่ายค่าเล่าเรียนไว้ 2 ประเภท ดังนี้
1. โอนเงินระหว่างประเทศในระบบเดิม (Traditional Wire Transfer) คือ โอนเงินจากบัญชีที่มีอยู่กับธนาคารในประเทศของนักศึกษาไปยังบัญชีของมหาวิทยาลัยบวกด้วยค่าธรรมเนียมที่นักศึกษาอาจจะต้องบวกเพิ่มค่าธรรมเนียมที่มหาวิทยาลัยอาจจะต้องเสียให้กับธนาคารเพื่อรับเงิน นอกเหนือไปจากค่าโอนเงินระหว่างประเทศที่ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยเก็บค่าธรรมเนียมจากนักศึกษาหรือผู้ปกครอง ลองศึกษาจากบางเว็บไซต์ของสถานศึกษา เช่น University of Southern California ที่ Los Angeles ในรัฐ California http://fbs.usc.edu/depts/sfs/object.aspx?object_id=2109
2. โอนเงินจากธนาคารในประเทศบ้านเกิดของนักศึกษาไปยังบัญชีของมหาวิทยาลัยผ่านระบบ Travelex http://fbs.usc.edu/depts/epay/page/6031/travelex-wires/
นักศึกษาเพียงเข้าสู่ระบบหน้าการจ่ายเงินของมหาวิทยาลัย คลิก” tuition and fees” ใส่จำนวนเงินที่ต้องการโอนผ่าน Travelex คลิก ” add to payment queue ” คลิก “Checkout” แล้วเลือกวิธีการจ่ายเงิน เลือก “Pay bey wire transfer” ก็จะนำนักศึกษาไปสู่หน้าเว็บไซต์ของ Travelex ใส่หมายเลขประจำตัวนักศึกษา และจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายให้สถานศึกษาเป็นสกุลดอลาร์สหรัฐ Travelex จะคำนวณเป็นสกุลเงินบาทที่จะต้องจ่ายให้ Travelex
หลายคนอาจจะอยากรู้ที่มาของ Travelex สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.travelex.com/GlobalWebsiteSelection/
หรือ http://www.travelexbusiness.com/na/downloads/collateral/TVXEDU090722.pdf
บางสถานศึกษาอาจใช้หน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ Travelex เช่น ใช้หน่วยงานที่มีชื่อเรียกว่า Peer Transfer ( http://peertransfer.com/)
นักศึกษาสามารถตรวจสอบรายชื่อสถานศึกษาที่ใช้ระบบการโอนเงินค่าเล่าเรียนผ่าน Peer Transfer ได้ภายใต้ไอคอน “Enter Your School Name” หรือ “Choose a School”
Copyright © 2010-2012 GoVisa All rights reserved