ความแตกต่างระหว่างรหัสพื้นที่ รหัสประเทศ รหัสไปรษณีย์ และรหัสเมือง
รหัสประเทศ หรือ รหัสพื้นที่ หรือ area code มักใช้หมายถึง รหัสโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยตัวเลข 2 หลักบ้าง 3 หลักบ้าง จากวิกิพิเดียสารานุกรมเสรี http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_country_calling_codes ได้อธิบายไว้ว่า รหัสโทรศัพท์ระหว่างประเทศจะแบ่งออกเป็นโซนๆ ดังนี้คือ
โซน 1 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือ
โซน 2 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา
โซน 3 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป(เดิมมีจุดมุ่งหมายให้เป็นรหัสประเทศของสหภาพยุโรป)
โซน 4 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปยุโรป
โซน 5 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศเม็กซิโก ทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้
โซน 6 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแปวิฟิกใต้และโอเชียเนีย
โซน 7 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศรัสเซีย
โซน 8 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันออก
โซน 9 : ประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียใต้ เอเชียกลาง และตะวันออกกลาง
เว็บไซต์ที่จะใช้ค้นหารหัสโทรศัพท์ของประเทศต่างๆมีหลายเว็บไซต์ แต่เว็บไซต์ที่จะแนะนำต่อไปนี้เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ง่าย คือ
1. http://countrycode.org/เป็นเว็บไซต์ที่บอก ชื่อประเทศ ISO รหัสประเทศ รหัสโทรศัพท์ของประเทศ จำนวนประชากรของประเทศ ขนาดพื้นที่ของประเทศ และผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ(GDP)
เมื่อคลิกเข้าไปที่ประเทศที่ต้องการ อาทิ United States จะได้รหัสเมืองเรียงตามตัวอักษร A, B, C…เว็บไซต์นี้เหมาะกับผู้ที่ทราบหมายเลขโทรศัพท์ปลายทางแล้ว แต่ไม่ทราบวิธีการหมุนหมายเลขโทรศัพท์ออกจากประเทศของตนเอง
2. http://www.countrycallingcodes.com/
เว็บไซต์ที่ 2 จะใช้ง่ายกว่าเว็บไซต์ที่ 1 เพราะมีสื่อแสดงความเข้าใจเป็นรูปภาพโทรศัพท์ประกอบตัวอักษรที่ระบุ ชื่อรัฐ ให้คลิกค้นหาตามความต้องการ เช่น ถ้าต้องการโทรศัพท์ออกจากประเทศไทยไปยังผู้รับปลายทางที่อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ต้องการใช้โทรศัพท์จะเริ่มต้นด้วยการกดหมายเลข 001-1+รหัสเมือง+หมายเลขดังภาพประกอบข้างล่าง
ส่วนคำว่า รหัสไปรษณีย์หรือ Zip Code จะประกอบด้วยตัวเลข 5 หลักเป็นส่วนใหญ่ เพื่อระบุพื้นที่ทางภูมิสาสตร์ที่เฉพาะเจาะจง จากเว็บไซต์ http://www.carrierroutes.com/ZIPCodes.html
ทำให้ทราบความหมายของเลข 0-9 ที่นำหน้ารหัสไปรษณีย์ในสหรัฐอเมริกาว่า หมายถึงรัฐใดบ้าง ในบางประเทศอาจไม่ได้ใช้ Zip Code เป็นเลข 5 หลักเหมือนในประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น ในสหราชอาณาจักร รหัสไปรษณีย์มักประกอบด้วยตัวอักษรผสมกับตัวเลข สำหรับความหมายของตัวเลขตัวที่ 1 ในจำนวน 5 ตัวเลขของรหัสไปรษณีย์สหรัฐอเมริกามีดังนี้คือ
หมายเลข 0 ได้แก่รัฐ Connecticut (CT), Massachusetts (MA), Maine (ME), New Hampshire (NH), New Jersey (NJ), Puerto Rico (PR), Rhode Island (RI), Vermont (VT), Virgin Islands (VI)
หมายเลข 1 ได้แก่รัฐ Delaware (DE), New York (NY), Pennsylvania (PA)
หมายเลข 2 ได้แก่รัฐ District of Columbia (DC), Maryland (MD), North Carolina (NC), South Carolina (SC), Virginia (VA), West Virginia (WV)
หมายเลข 3 ได้แก่รัฐ Alabama (AL), Florida (FL), Georgia (GA), Mississippi (MS), Tennessee (TN)
หมายเลข 4 ได้แก่รัฐ Indiana (IN), Kentucky (KY), Michigan (MI), Ohio (OH)
หมายเลข 5 ได้แก่รัฐ Iowa (IA), Minnesota (MN), Montana (MT), North Dakota (ND), South Dakota (SD), Wisconsin (WI)
หมายเลข 6 ได้แก่รัฐ Illinois (IL), Kansas (KS), Missouri (MO), Nebraska (NE)
หมายเลข 7 ได้แก่รัฐ Arkansas (AR), Louisiana (LA), Oklahoma (OK), Texas (TX)
หมายเลข 8 ได้แก่รัฐ Arizona (AZ), Colorado (CO), Idaho (ID), New Mexico (NM), Nevada (NV), Utah (UT), Wyoming (WY)
หมายเลข 9 ได้แก่รัฐ Alaska (AK), American Samoa (AS), California (CA), Guam (GU), Hawaii (HI), Oregon (OR), Washington (WA)
เว็บไซต์ที่ใช้ตรวจสอบรหัสไปรษณีย์ของประเทศต่างๆมีหลายเว็บไซต์ ที่ใช้ไม่ยากมีดังนี้คือ
1. http://www.embassyworld.com/Zip_Codes/
เมื่อคลิกที่ United States หรือ U.S.Postal Services Address Quality and ZIP Code Look Up จะได้เป็นหน้าเว็บไซต์ไปรษณีย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่อคลิกเลือก Look Up a Zip Code ใสชื่อถนน เมืองและรัฐ ยกตัวอย่าง ถนน Hilgard Avenue เมือง Los Angeles รัฐ California จะได้ผลลัพธ์ออกมาว่า ถ้าเป็นที่ตั้งที่อยู่ระหว่างหมายเลขเท่าไรถึงหมายเลขเท่าไรจะใช้รหัสไปรษณีย์นี้ดังภาพล่าง
2. http://www.foreign-trade.com/resources/country-code.htm
อนึ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา ความสัมพันธ์ระหว่างรหัสโทรศัพท์และรหัสพื้นที่จะปรากฏให้เห็นได้ในเมืองที่มีขนาดใหญ่ในรัฐที่มีขนาดใหญ่ บางท่านมีความสับสนจากชื่องเมืองและรหัสไปรษณีย์ที่เขียนต่อท้ายชื่อรัฐว่า มีความแตกต่างกันทั้งๆที่ใช้ชื่อเมืองชื่อเดียวกัน เว็บไซต์ต่อไปนี้ http://www.zipareacode.net/ พอจะอธิบายให้เห็นภาพคร่าวๆได้ว่า รหัสโทรศัพท์จะเป็นตัวระบุพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ระหว่างบริเวณใดถึงบริเวณใด เป็นต้น
ข้อมูลดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ต้องการทราบข้อมูลที่ละเอียดลึกลงไปมากกว่าเดิม เช่น Los Angeles มีที่ใช้รหัสพื้นที่ทั้ง 310, 323, 213 มีความแตกต่างกันอย่างไร ความแตกต่างจะอญุ่ที่รหัสหมายเลขนี้ เช่น 310 ใช้ครอบคลุมพื้นที่ที่ใช้รหัสไปรษรีย์ดังภาพล่าง คือ
จากเว็บไวต์ http://www.zipareacode.net/los-angeles-ca-area-code.htm และภาพประกอบด้านล่างจะทำให้ผู้ต้องการใช้โทรศัพท์ทราบว่า มีความสัมพันธ์ระหว่างรหัสพื้นที่หรือรหัสโทรศัพท์กับรหัสไปรษณีย์เกิดขึ้น ผู้ต้องการต่อโทรศัพท์ไปยังผู้ใช้ปลายทางใน Los Angeles อาจสงสัยว่า ทำไมเพื่อน 2 คนที่เขียนที่อยู่ให้ว่า Los Angeles, CA จึงใช้รหัสโทรศัพท์ที่แตกต่างกัน
Copyright © 2010-2012 GoVisa All rights reserved