วีซ่าไปทำงานในอเมริกา
วีซ่าไปทำงานในอเมริกา ปัจจุบันคนรุ่นใหม่เมื่อสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญา ก็อยากจะมีโอกาสไปทำงานในต่างประเทศ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ต้องการแสดงความเป็นพลเมืองโลก ( Global Citizen) หรือเหตุผลอื่นๆใดก็ตาม เราจะมาดูกันว่า ชาวต่างชาติที่ต้องการจะเดินทางเข้าไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะต้องได้รับอนุญาตให้มีวีซ่าประเภทใดกันบ้าง
วีซ่าไปทำงานในสหรัฐอเมริกาแบ่งตามลักษณะงานที่เข้าไปทำ ได้แก่
- A-3
- G-5
- B-1
- H-1B
- H-1B1
- H-2A
- H-2B
- J-1
- L
- O
- P-1
- P-2
- P-3
- Q-1
เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลหรือความหมายของวีซ่าประเภทต่างๆที่จะเข้าไปทำงานในสหรัฐอเมริกาทั้ง 14 ประเภท คือ
https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/employment/temporary-worker-visas.html อย่างไรก็ตาม
บล็อกนี้อยากเชิญชวนให้ผู้สนใจไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกาลองศึกษา 2 ประเด็นต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา คือ
- ความหมายของวีซ่าแต่ละประเภท
- สิทธิต่างๆขณะทีี่ทำงานในสหรัฐอเมริกา
ความหมายของวีซ่าประเภทต่างๆ
ประเภทวีซ่า | ความหมายของวีซ่า |
A-3 | วีซ่าที่ให้แก่นักการทูต |
B-1 | วีซ่าที่ให้แก่ผู้ช่วยทำงานบ้านนักการทูต |
G5 | วีซ่าประเภท G คือวีซ่าที่ให้กับผู้ทำงานองค์กรระหว่างประเทศ วีซ่าประเภท G มีหลายชนิดคือ G-1, G-2, G-3, G-4, G-5 สำหรับวีซ่า G-5 อาจหมายถึงผู้ที่เป็นลูกจ้างส่วนตัวของผู้ถือวีซ่า G-1, G-2, G-3 และ G-4 ได้ |
H-1B | สำหรับผู้ให้บริการในอาชีพที่ต้องมีความเชี่ยวชาญพิเศษ และต้องเป็นผู้ที่เรียนจบระดับปริญญาหรือเทียบเท่า รวมทั้งผู้แสดงแบบแฟชั่น หริอผู้ที่ถูกส่งไปทำงานวิจัยและพัฒนาในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือผู้ที่ทำงานภายใต้โครงการพิเศษของกระทรวงกลาโหม |
H-1B1 | สำหรับผู้ให้บริการในอาชีพที่ต้องมีความเชี่ยวชาญพิเศษ ผู้ถือวีซ่าประเภทนี้อย่างน้อยต้องจบมัธยมศึกษาตอนปลายและจบปริญญาตรี ผู้มีสิทธิ์ เช่นผู้ที่มาจากประเทศที่มีสัญญา FTA กับสหรัฐ เช่น ชิลี สิงคโปร์ เป็นต้น |
H-2A | · สำหรับผู้ที่ไปเป็นแรงงานชั่วคราวภาคเกษตรกรรม จำกัดการให้วีซ่าประเภทนี้กับบางสัญชาติ
· ผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดการจ้างงาน สิทธิประโยชน์ ค่าจ้าง การจัดหาที่พัก เวลาทำงาน และสิทธิประโยชน์ในการเดินทางที่นายจ้างจะต้องเป็นผู้จัดให้ · มีสิทธิได้รับค่าจ้างตามที่กำหนด · นายจ้างต้องจัดหาที่พักที่สะอาดและปลอดภัยให้ · นายจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปและกลับให้ · ผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ได้รับการประกันการทำงานอย่างน้อย 3 ใน 4 ของวันทำงานที่ระบุไว้ในสัญญา · ผู้ขอวีซ่าประเภทนี้ไม่ต้องจ่ายค่าประกันสังคมสหรัฐหรืออื่นๆให้แก่ผู้คัดเลือกผู้ที่ถือวีซ่าประเภทนี้มา |
H-2B | วีซ่าสำหรับแรงงานเกษตรนอกภาคอุตสาหกรรม
· จะได้รับค่าตอบแทนในจำนวนที่มากกว่าหรือเท่ากับค่าจ้างที่ให้แก่แรงงานชนิดเดียวกัน คือเป็นอัตราที่รัฐบาลกลางกำหนด หรือเท่ากับอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่กฎหมายท้องถิ่นกำหนด · นายจ้างรับผิดชอบในการจ่ายค่าเดินทางกลับประเทศของผู้ที่ถือวีซ่าประเภทนี้ ไมว่าจะเป็นกรณีสิ้นสุดการว่าจ้าง หรือให้ออกจากงานก่อนสิ้นสุดสัญญา · มีสิทธิ์ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาจ้างที่ให้แก่แรงงานสหรัฐทั่วไป · ผู้ถือวีซ่าประเภทนี้ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้คัดเลือกคนงานในประเทศของตนเอง |
H-3 | เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่มาฝึกอบรม นอกเหนือจากผู้ที่จบการศึกษาด้านระดับบัณฑิตศึกษาทางการแพทย์หรือเป็นนักวิชาการ |
J-1 | เป็นวีซ่าสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน
· ถ้าโครงการแลกเปลี่ยนนั้นไม่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลกลางสหรัฐฯ โครงการนั้นต้องมีระยะเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ผู้ยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ต้องได้รับ DS-2019 กลับมาจากนายจ้างเป็นหลักฐานในการยื่นขอวีซ่า โดยใน DS-2019 ต้องระบุประเภทโครงการแลกเปลี่ยน วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการ และ/หรือมีหนังสือสัญญาครองคลุมเงื่อนไขและข้อตกลงของโครงการ · การโฆษณาของผู้สนับสนุนโครงการแลกเปลี่ยนจะต้องตรงตามความเป็นจริง · ผู้สนับสนุนโครงการต้องต้องแจ้งรายละเอียด ค่าใช้จ่าย และเงื่อนไขตลอดจนข้อบังคับของโครงการชัดเจน ด้วยการจัดปฐมนิเทศก์และให้ข้อมูลแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ · ถ้าเดินทางเข้าสหรํฐฯภายใต้โครงการ Work and Travel Program และยังไม่มีชื่อสถานที่รับเข้าทำงาน ผู้สนับสนุนโครงการต้องเป็นผู้ช่วยจัดหาสถานที่จ้างงานให้ภายในสัปดาห์แรกที่ผู้ถือวีซ่า J-1 เข้าไปอยู่ในสหรัฐฯ และผู้สนับสนุนโครงการต้องการันตีว่าผู้ถือวีซ่า J-1 จะต้องได้รับเงินค่าจ้างและสิทธิประโยชน์เท่ากับแรงงานคนอเมริกัน · ถ้าท่านเดินทางเข้าสหรัฐฯด้วยวีซ่า J-1 ประเภทโครงการฝึกอบรมและการฝึกงาน ผู้สนับสนุนโครงการต้องมี Training/Internship Placement Plan (Form DS-7002) · ผู้สนันสนุนโครงการต้องให้ผู้ถือวีซ่า J-1 ทำประกันสุขภาพด้วย · ผู้ถือวีซ่า J-1 ต้องขอหมายเลขประกันสังคม ( Social Security Number) และนายจ้างต้องทำรายงานการหักภาษีโดยระบุหมายเลขประกันสังคมของผู้ถือวีซ่า J-1 ด้วย · กรณีไปฝึกอบรมและฝึกงาน ผู้ถือวีซ่า J-1 สามารถนำผู้ติดตามหรือผู้ถือวีซ่า J-2 (คู่สมรส และลูก) ไปด้วยได้และผู้ถือวีซ่าประเภท J-2 สามารถทำงานได้แต่ต้องไม่นำเงินรายได้ไปช่วยเหลือผู้ถือวีซ่า J-1 เพราะผิดกฎระเบียบ |
L | เป็นวีซ่าสำหรับผู้ไปปฏิบัติงานที่สาขา หรือบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่ในระดับผู้บริหาร หรือเป็นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน |
O | เป็นวีซ่าสำหรับบุคคลที่มีความรู้ความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ การศึกษา ด้านธุรกิจ หรือเป็นนักกีฬา หรือประสบความสำเร็จด้านภาพยนตร์และการผลิตรายการทีวี |
P1 | เป็นวีซ่าสำหรับนักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขัน หรือเป็นศิลปินที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ |
P2 | เป็นวีซ่าที่ให้กับศิลปินหรือผู้ให้ความบันเทิง(เป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม) ที่มาแสดงในโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงานในสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานในประเทศอื่น |
P3 | เป็นวีซ่าที่ให้กับศิลปินหรือผู้ให้ความบันเทิงที่มาแสดง มาสอน หรือมาเป็นโค้ชภายใต้โครงการที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน หรือเป็นการแสดงหรือนำสนอที่บ่งบอกถึงเชื้อชาติ ความเป็นพื้นเมือง วัฒนธรรม ดนตรี การละครหรือการแสดงที่เป็นศิลปะ |
Q1 | เป็นวีซ่าที่ให้กับคนที่เข้ามาร่วมในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการฝึกงาน การว่าจ้าง และแลกเปลี่ยนข้อมูลทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีของประเทศของผู้ถือวีซ่า Q1 |
เมื่อได้รับวีซ่าเข้าไปทำงานในสหรัฐอเมริกาแล้ว เราควรต้องหาข้อมูลหรือเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ความคิด และการดำเนินชีวิตของคนอเมริกันไว้บ้าง วัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่คนอเมริกันแตกต่างจากคนไทยคือ เราควรต้องเรียนรู้สิทธิของตนเองและต้องปกป้องรักษาสิทธิของตนเองไว้ให้ดี อย่าให้ใครล่วงละเมิดได้ โปรดอ่านรายละเอียดได้จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีคำอธิบายเกี่ยวกับการรักษาสิทธิของตนเองเวลาเดินทางเข้าไปทำงานในสหรัฐอเมริกาไว้หลากหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทย https://travel.state.gov/content/travel/en/us-visas/visa-information-resources/temporary-workers.html เมื่อคลิกเลือกภาษาไทยจะพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง แก่ผู้ที่จะเข้าไปทำงานที่สหรัฐอเมริกาต้องทราบ
เนื่องจากเอกสารมีความยาวทั้งสิ้น 16 หน้า โปรดเข้าไปศึกษารายละเอียดเองที่เว็บไซต์ https://travel.state.gov/content/dam/visas/LegalRightsandProtections/Wilberforce/Wilberforce-THA-05232017.pdf
Copyright © 2010-2018 GoVisaEdu All rights reserved.