คำแนะนำเกี่ยวกับการรับประทานอาหารในร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกา

  1. เมื่อเข้าไปใน Restaurant จะต้องคอยใกล้ๆป้าย Wait to be Seated รอจนกว่าบริกรจะนำไปยังโต๊ะที่จัดไว้ ถ้าร้านอาหารนั้นไม่แน่น อาจจะเห็นป้าย Please seat yourself แทน
  2. ในปัจจุบัน ร้านอาหารส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในร้านอาหาร ทั้งนี้เพื่อรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เว็บไซต์   http://www.stateoftheusa.org/content/do-smoking-bans-help.php จะแสดงแผนที่ Google Map ว่า มีรัฐใดบ้างที่เข้มงวดไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในร้านอาหาร  และรัฐใดบ้างที่ไม่เข้มงวดเรื่องสูบบุหรี่ในร้านอาหาร หรือถ้ายังสนใจเรื่องนี้เป็นกรณีเฉพาะ สามารถอ่านเพิ่มเติมจาก  www.no-smoke.org/pdf/WRBLawsmap.pdf ซึ่งจัดทำโดย American Nonsmokers’ Rights Foundation
  3. ร้านอาหารบางแห่งจะมีรายการอาหารพร้อมราคาอยู่ที่กระจกด้านหน้า หรือมีเมนูอยู่ที่หน้าร้าน ถ้าไม่สามารถเดินเข้าไปสอบถามราคาได้ อนึ่ง ถ้าเห็นว่าราคาอาหารแพง สามารถกล่าวขอบคุณแล้วเดินออกมาได้ ในปัจจุบัน ร้านอาหารส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา มีเมนูพร้อมราคาให้เลือกดูได้ทางอินเตอร์เน็ต ก่อนตัดสินใจเลือกไปร้านใดร้านหนึ่ง
  4. โดยทั่วไปอาหารมื้อกลางวันจะถูกกว่ามื้อเย็น
  5. บริกรมักจะเสิร์ฟขนมปัง เนย และน้ำตลอดมื้ออาหาร
  6. ถ้ารับประทานอาหารไม่หมด หรือสั่งมาแล้วยังไม่ได้ทาน สามารถขอ doggie Bag ได้ ซึ่งหมายความว่า บริกรจะจัดอาหารชุดนั้นใส่ลงถุงเพื่อนำกลับบ้าน แต่ถ้าเป็น Restaurant ที่มีราคาแพง หรือระดับ First Class ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง
  7. โดยทั่วไปค่า Service Charge จะไม่รวมอยู่ในใบเรียกเก็บเงิน (Bill) แต่ถ้าร้านใดระบุค่า Service Charge ลงมาในใบเรียกเก็บเงินแล้วก็ไม่จำเป็นต้องให้ Tip แก่พนักงาานเสิร์ฟ ค่า Tip ตามปกติ คือ  15 % ของราคาอาหาร ตามเมืองใหญ่ๆอาจให้ Tip สูงถึง 20% หากบริกรไม่ดี สามารถให้ค่า Tip น้อยกว่านี้ได้ นักศึกษาสามารถศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง United States: Tipping and Etiquette ได้จาก www. tripadvisor.com/Travel-g191-s606/United States:Tipping.And.Etiquette.html อนึ่ง นักศึกษาบางท่านหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินค่า Tip โดยเลือกสั่งอาหารใน Restaurant ประเภทนำกลับมารับประทานยังที่พักได้ อย่างไรก็ตาม ในยุคการต่อต้านปัญหาโลกร้อน ร้านค้าในสหรัฐอเมริกา จะคิดเงินค่าบริการถุงพลาสติก ในการซื้อสินค้าหรือใส่กล่องอาหารกลับบ้านประมาณ 5 เซ็นต์ต่อการใช้ถุง 1 ใบ
  8. ในใบเรียกเก็บเงินค่าอาหารจะมีค่าภาษี (Vat) ของอาหารด้วย ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
  9. นักศึกษาควรศึกษาคำศัพท์เรื่องการสั่งอาหารจากในหนังสือภาษาอังกฤษไว้บ้าง เป็นต้นว่า การสั่งอาหารมื้อเช้าประเภทไข่ บริกรมักจะถามว่า เราต้องการอาหารไข่ประเภทไหน เช่น Hard-Boiled-Egg (ไข่ต้ม) , Soft-Boiled Egg ( ไข่ลวก) , Scrambled Egg (ไข่คน), Poached (ไข่ทอดในน้ำ), Fried (ไข่ดาว), สำหรับไข่ดาวยังมีให้เลือกว่าต้องการ Sunny-Side-Up (ทอดด้านเดียว) , หรือ Over -Easy (พลิกทอดทั้งสองด้าน) , หรือ Omlette (ไข่เจียว ไข่เจียวอาจมีไส้ได้) ถ้าฟังไม่ทัน หรือไม่เข้าใจ อาจทำให้รู้สึกอึดอัด เมื่อต้องเข้าไปรับประทานอาหารใน restaurant

หมายเหตุ

ราคาอาหารที่เขียนไว้ในรายการอาหารตามร้านอาหาร ยกเว้น ใน Vending Machine จะต้องบวกภาษีไปด้วย ฉะนั้น เมื่อซื้ออาหารรับประทานจะต้องเสียค่าอาหารบวกภาษีและค่า Tip ด้วย

Copyright © 2010 GoVisaEdu All rights reserved.