TOEFL iBT คืออะไร ใช้เมื่อไรบ้าง

TOEFL iBT คืออะไร ใช้เมื่อไรบ้าง

TOEFL iBT หรือ Test of English as a Foreign Language internet-based Test คือ แบบทดสอบความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษและความเข้าใจภาษาอังกฤษในระดับวิทยาลัยว่า ผู้ใช้สามารถผนวกทักษะการฟัง พูด อ่านและเขียนในเชิงวิชาการได้มากน้อยเท่าไร TOEFL เริ่มใช้ครั้งแรกในช่วงระหว่างปีค.ศ. 1963-1964 TOEFL ได้พัฒนาเปลี่ยนรูปแบบการทดสอบจากการฝนด้วยดินสอดำเพื่อเลือกคำตอบที่ถูกต้องลงบนกระดาษที่เรียกว่า TOEFL Paper-based Test หริอ TOEFL PBT ไปสู่การทำแบบทดสอบผ่านอุปกรณ์คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ในปีค.ศ. 1998 หรือที่เรียกกันว่า TOEFL Computer-based Test หรือ TOEFL CPT ข้อสอบ TOEFL ได้ถูกพัฒนาอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ผู้สอบสามารถผนวก 4 ทักษะคือ การฟัง การพูด การอ่านและการเขียนให้ดียิ่งขึ้น จีงได้เกิดการทำแบบทดสอบผ่าน internet ที่เรียกว่า TOEFL iBT หรือ TOEFL Internet-based Test ในช่วงระหว่างปีค.ศ. 2005-2006 TOEFL iBT มีศูนย์สอบอยู่ในประเทศต่างๆมากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก

อนึ่ง TOEFL PBT แม้จะถูกยกเลิกการใช้งานอย่างถาวรในเดือนกรกฎาคม 2017 แต่ยังมีบางพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ ก็สามารถเลือกสอบ Revised TOEFL Paper-delivered Test ได้ ตรวจสอบศูนย์สอบที่มี Revised TOEFL Paper-delivered Test ได้ที่ https://www.ets.org/bin/getprogram.cgi?test=toefl

ตัวอย่างศูนย์สอบที่มี Revised TOEFL Paper-delivered Test เช่น Marshall Island

ไอคอนที่ให้เลือกศูนย์สอบจะระบุราคาค่าสมัครสอบและวันที่ที่เปิดสอบ https://www.ets.org/bin/getprogram.cgi?test=toefl เช่น ประเทศไทย ปี 2018

สำหรับค่าสมัครสอบนอกจากชำระได้ด้วยบัตรเครดิต และบัตรเดบิตแล้ว ยังสามารถชำระได้ด้วยวิธีอื่นๆอีก เช่น จ่ายผ่าน PayPal, Western Union หรือ Money Order ฯลฯ https://www.ets.org/toefl/ibt/about/fees

TOEFL iBT จะแบ่งข้อสอบออกเป็น 4 ส่วน แต่ละส่วนผู้สอบต้องใช้ทั้ง 4 ทักษะคือ ฟัง พูด อ่านและเขียน มาวิเคราะห์หาคำตอบที่ถูกต้อง โดยมีคะแนนเต็ม 120 คะแนน ข้อสอบทั้ง 4 ส่วนคือ

  1. Reading คะแนนเต็ม 30 คะแนน ใช้เวลาในการทำข้อสอบ  60-80 นาที มี 3-4 academic passages มาให้อ่าน  และมีคำถามใน Reading ทั้งหมดประมาณ 35-56 คำถาม
  2. Speaking คะแนนเต็ม 30 คะแนน ใช้เวลาในการสอบประมาณ 60-90 นาที มีคำถามประมาณ 34-51 คำถามในส่วนนี้
  3. หยุดพักนานประมาณ 10 นาที
  4. Listening คะแนนเต็ม 30 คะแนน ใช้เวลาในการทำข้อสอบประมาณ 20 นาที มีคำถามทั้งหมด 6 คำถาม
  5. Writing คะแนนเต็ม 30 คะแนน ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีในการทำข้อสอบ ให้เขียน 2 หัวข้อ อ่านเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของ TOEFL: https://www.ets.org/toefl/ibt/about/content/

ตามสถิติของหน่วยงาน ETS ที่เป็นผู้จัดสอบ TOEFL ทำให้เราได้ทราบว่า มีผู้เคยสอบ TOEFL มาแล้วทั่วโลกมากกว่า 30 ล้านคน https://www.ets.org/toefl/ibt/about  และผลการทดสอบจะอยู่ในระดับปานกลางถึงระดับสูง ค่าเฉลี่ยคะแนนสอบ TOEFL iBT ที่นักศึกษาไทยทำสถิติไว้ในปีค.ศ. 2017 คือ 78 คะแนน https://www.ets.org/s/toefl/pdf/94227_unlweb.pdf

TOEFL IBT ใช้เมื่อไร

  1. ใช้ในการยื่นสมัครเรียนในระดับตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาในกลุ่มโรงเรียนที่มีการแข่งขันสูง รับเข้าเรียนค่อนข้างยาก
  2. ใช้ในการยื่นสมัครเรียนทั้งระดับวิทยาลัย Community College, Four Year College และระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา
  3. ใช้ในการยิ่นสมัครเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศต่างๆ
  4. ใช้วัดผลก่อนการเข้าเรียนหลักสูตรที่สอนด้วยภาษาอังกฤษของประเทศต่างๆ และวัดผลก่อนจบการศึกษาหรือที่เรียกว่า Exit Program
  5. ใช้ในการสอบเพื่อยื่นขอใบประกอบวิชาชีพบางวิชาชีพ เช่น แพทย์
  6. ใช้ในการยื่นขอวีซ่าถาวรบางประเภททั้งของประเทศสหรัฐอเมริกาเอง หรือประเทศอื่น

หากผู้สอบต้องการ ทำแบบทดสอบฟรีออนไลน์ เว็บไซต์ TOEFL มีหลายช่องทางให้เลือกทำแบบทดสอบก่อนการตัดสินใจซื้อหนังสือ https://www.ets.org/toefl/ibt/prepare/

ในวันสอบสามารถนำหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนเข้าไปในห้องสอบได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ของส่วนตัวต้องวางไว้นอกห้องสอบ ครวจาอบได้ที่เว็บไซต์ TOEFL อีกเช่นกันว่า ษูนย์สอบในประเทศไทยอนุญาตให้นำเอกสารใดมาแสดงได้บ้าง

คะแนนสอบ TOEFL มีผลใช้งานได้นาน 2 ปี และผู้สมัครสามารถสมัครสอบใหม่ได้ในเดือนถัดไปหลังสอบเสร็จ จาก ” A Guide to Understanding TOEFL iBT Scoreshttps://www.ets.org/Media/Tests/TOEFL/pdf/TOEFL_Perf_Feedback.pdf  ซึ่งจะแบ่งศักยภาพของผู้สอบในส่วน Reading และ Listening ได้เป็น 3 ระดับคือ

  1. Low คิอ ผู้ที่ได้ช่วงคะแนนอยู่ระหว่าง 0-14 คะแนน
  2. Intermediate คิอ ผู้ที่ได้ช่วงคะแนนอยู่ระหว่าง 15-21 คะแนน
  3. High คือ ผู้ที่ได้ช่วงคะแนนอยู่ระหว่าง 22-30 คะแนน

ในขณะที่คะแนนสอบในส่วน Speaking และ Writing จะถูกวัดเป็น 3 ระดับเช่นเดียวกันคือ

  1. Limited คือ ผู้ที่ได้ช่วงคะแนนอยู่ระหว่าง 1.0-2.0
  2. Fair คือ ผู้ที่ได้ช่วงคะแนนอยู่ระหว่าง 2.5-3.5
  3. Good คือ ผู้ที่ได้ช่วงคะแนนอยู่ระหว่าง 4.0-5.0

ภาพบรรยกาศในห้องในวันสอบสามารถรับชมได้จากวิดีโอที่ ETS  เป็นผู้จัดทำขึ้น https://www.ets.org/s/toefl/flash/15571_toefl_prometric.html

Copyright © 2010-2018 GoVisaEdu All rights reserved.